ศูนย์ปฏิบัติธรรมและอบรมเยาวชนเมืองยะลา ได้ปลูกต้นไม้แห่งความดี และจุดประกายแสงสว่างในหัวใจ ให้กับน้อง ๆ เยาวชนในพื้นที่ ผ่านกิจกรรมบรรพชาสามเณรภาคฤดูร้อน ประจำปี 2568 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 20 เมษายน 2568 ในช่วงเวลาที่น้อง ๆ เยาวชน ปิดภาคเรียน เพื่อเปิดโอกาสให้น้อง ๆ เยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้หลักธรรมและหันกลับมาเรียนรู้โลกภายใน ด้วยฝึกฝนวินัย ฝึกใจ และสัมผัสวิถีแห่งสมณะเพศ
วันที่ (8 เมษายน 2568) เวลา 07.00 น. ที่ แหล่งรวมรถ ค่ายสิริธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในกิจกรรมทำบุญตักบาตร ข้าวสารอาหารแห้ง แด่สามเณรที่บรรพชาภาคฤดูร้อน ประจำปี 2568 จำนวน 45 รูป ซึ่งจัดขึ้นเพื่อส่งเสริมพระพุทธศาสนาและปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรมให้กับน้อง ๆ เยาวชนในช่วงปิดภาคเรียน โดยมี พระดินดาว ปุญญฺกนฺโต ประธานสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมและอบรมเยาวชนเมืองยะลา เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า คณะผู้บังคับบัญชา ตลอดจนกำลังพลและครอบครัว รวมไปถึงพี่น้องพุทธศาสนิกชน ร่วมกิจกรรม
โอกาสนี้ พระดินดาว ปุญญฺกนฺโต ประธานสงฆ์ ศูนย์ปฏิบัติธรรมและอบรมเยาวชนเมืองยะลา ได้ร่วมเทศนาธรรมในโอกาสที่นำสามเณรมาร่วมกิจกรรมทำบุญตักบาตร ว่า “ถือเป็นโอกาสที่ดี ที่ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ตลอดจนคณะผู้บังคับบัญชา กำลังพลและครอบครัวทุกท่าน มาร่วมกิจกรรมในวันนี้ เพราะนอกจากจะเป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยความเป็นสิริมงคลแล้ว กิจกรรมนี้ยังสะท้อนภาพความร่วมแรง ร่วมใจจากทุกคน เป็นภาพแห่งความอบอุ่น เรียบง่าย ท่ามกลางบรรยากาศที่เปี่ยมด้วยแรงศรัทธาของทุกคน ที่มาร่วมทำบุญตักบาตร เพื่ออนุโมทนาบุญกับเหล่าสามเณรน้อยที่บรรพชาภาคฤดูร้อน ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกคนได้ร่วมกันสนันสนุนน้อง ๆ เยาวชน ให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง ดีงาม เพราะในปัจจุบันน้อง ๆ เยาวชนส่วนใหญ่ มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปจากเดิม เนื่องมาจากการติดโทรศัพท์ เล่นเกมส์ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยกิจกรรมนี้ จะเป็นการฝึกฝนจิตใจให้กับน้อง ๆ เยาวชน ได้รู้จักวินัย ความอดทน และการดำรงตนตามหลักธรรมอันเป็นรากฐานของการเป็นพลเมืองที่ดีในอนาคต นอกจากนี้ยังสะท้อนการอยู่ร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่พี่น้องประชาชนจากหลากหลายวัฒนธรรมและศาสนา ต่างให้ความเคารพและสนับสนุนซึ่งกันและกัน แสดงให้เห็นถึงพลังของสังคมพหุวัฒนธรรมที่งดงามและเป็นแบบอย่างของความสงบสุขที่เกิดจากความเข้าใจและศรัทธาอันบริสุทธิ์ของทุกคน”
