
โอกาสนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า วันนี้ได้มาพบปะเยี่ยมเยียนพี่น้องประชาชนรวมไปถึงเยาวชนของหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่างบ้านรอตันบาตู เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิม ในห้วงเดือนรอมฎอน ได้มีโอกาสไปร่วมพบปะกับผู้นำศาสนาและพี่น้องประชาชนถือเป็นโอกาสที่ดีที่ที่ได้มาร่วมมอบชุดรายอให้กับเยาวชน และประชาชนมุสลิมที่ได้รับผลกระทบฯ เพื่อเตรียมการฉลองวันตรุษอีฎิ้ลฟิตรี (เทศกาลฮารีรายอ) ที่ใกล้จะมาถึงและถือโอกาสมอบชุดสงกรานต์ให้กับเยาวชนและประชาชนไทยพุทธ เพื่อสืบสานประเพณีสงกรานต์อย่างพร้อมเพรียงกันและมาให้กำลังใจบุคลากรทุกคนของมูลนิธิสตรีผู้ได้รับผลกระทบฯ ที่ได้ช่วยประสานงาน ดูแลเยาวชนและประชาชนในความรับผิดชอบตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ ให้ความรัก ความอบอุ่น เป็นครอบครัวบุญธรรมให้กับเยาวชนและส่งเสริมการศึกษาทั้งสายสามัญ และศาสนา แก่เยาวชนเหล่านี้ ผมคาดหวังว่าน้องๆ เยาวชน จะตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เติบโตเป็นบุคลากรของรัฐที่มีคุณภาพ ร่วมกันรักษาอัตลักษณ์ ส่งเสริมวัฒนธรรมอันดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และร่วมพัฒนาพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 4 สน.พร้อมจะร่วมหนุนเสริมภารกิจของมูลนิธิฯ และเยาวชนอย่างต่อเนื่อง และทุกภาคส่วน ที่ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมในวันนี้ ร่วมกัน ส่งมอบพลังความรักความโอบอ้อมอารี แก่เพื่อนมนุษย์ ซึ่งถือเป็นบุตรหลานของเรา และขอให้สมาชิกในหมู่บ้านทุกคน ได้ร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลฮารีรายอและเทศกาลสงกรานต์ อย่างมีความสุข

ด้าน นางสาวปณิสรา มณีรัตน์ ตัวแทนเยาวชนในหมู่บ้านรอตันบาตูได้กล่าวขอบคุณรองแม่ทัพภาคที่ 4 และผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านว่า ในวันนี้เยาวชนซึ่งเป็นเด็กกำพร้า ประชาชนในหมู่บ้าน และผู้ป่วยติดเตียง จะได้รับชุดรายอ ชุดสงกรานต์ รวมทั้งสิ้น จำนวน 253 คน พวกเราทุกคนดีใจ และมีขวัญกำลังใจ ที่ผู้ใหญ่ทุกท่านไม่เคยทอดทิ้ง และมาสร้างความสุข สร้างรอยยิ้มให้กันในทุกๆ ปี ร่วมกันส่งเสริมวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามของประชาชนในพื้นที่ พร้อมทั้งสร้างความสัมพันธ์อันดีของเจ้าหน้าที่และประชาชน ลูกๆ ทุกคนที่อยู่ ณ ที่นี้ ขอสัญญาว่าจะเติบโตเป็นพลเมืองที่ดี ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนเพื่อกลับมาช่วยกันพัฒนาบ้านเกิด และสิ่งสำคัญที่จะบันทึกไว้ในหัวใจ คือ “การแสดงความจงรักภักดี ต่อสถาบัน ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์”

