วันศุกร์, 14 มีนาคม 2568

ส่วนพัฒนายุทธศาสตร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อการจัดทำแผนเชิงรุก โดยการใช้วิธีการทำแผน ADM เพื่อต่อยอดการสร้างความเข้าใจประชาชน ทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ จชต.

วันที่ 13 มีนาคม 2568 เวลา 13.00 น. พลตรี วรเดช เดชรักษา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานเปิดการอบรมกระบวนการจัดทำแผนร่วมตามแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ADM) (ระหว่างแผนบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ กับแผนงานพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ONE PLAN) โดย ส่วนพัฒนายุทธศาสตร์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้จัดทำกระบวนการ (ADM) ซึ่งมีผลผลิตเส้นปฏิบัติการ 11 เส้น 257 กิจกรรม มีกรอบการขับเคลื่อน 3 ระดับ ได้แก่ 1.ระดับพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ 2.ระดับจังหวัด 3.ระดับอำเภอ

สำหรับการอบรมจัดทำแผนร่วมตามแผนบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ADM) มีวัตถุประสงค์ ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องหรือเจ้าภาพเส้นปฏิบัติการทั้ง 11 เส้นเข้าใจเป้าหมายเงื่อนไขวิธีการและประสานกิจกรรมกับหน่วยเฉพาะกิจจังหวัด หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ และกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดยะลา ปัตตานีนราธิวาส และสงขลา เพื่อขับเคลื่อนและบูรณาการแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ (ONE PLAN) กับ 8 แผนงานให้ประสานสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องและผู้รับผิดชอบเส้นปฏิบัติการร่วมกันวิเคราะห์กิจกรรมของหน่วยและจัดเข้ากลุ่มกิจกรรม โดยมีผู้แทนจากสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ, กรมประชาสัมพันธ์, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์, สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย, สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ, ศูนย์ขับเคลื่อนการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และหน่วยงานที่รับผิดชอบเส้นปฏิบัติการของแต่ละจังหวัด รวมไปถึงหน่วยขึ้นตรงของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมอบรมสัมมนาจัดทำแผนระหว่างวันที่ 11 – 14 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมบีพี สมิหลาบีช อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา

พลตรี วรเดช เดชรักษา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า สำหรับกระบวนการจัดทำแผนร่วมตามแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ADM) หากหน่วยงาน หรือทุกส่วนที่เกี่ยวข้องมีความเข้าใจตามบทบาทหน้าที่รวมถึงใช้เครื่องมือของหน่วย ในการแก้ไขปัญหานับว่าเป็นข้อดี เพราะการทำงานการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะเกิดประสิทธิภาพสอดคล้องกันและไม่เกิดความซ้ำซ้อนซึ่งทั้งหมดนั้นต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานทุกภาคส่วน