มทภ.4 ร่วมสร้างกลไกสำคัญในการดูแลและพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ให้มีความมั่นคงปลอดภัย ตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชน ลดผลกระทบต่อการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่

มาตรการรักษาความปลอดภัยระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ภาคใต้ถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากพื้นที่นี้มีความเสี่ยงต่อการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ และความต้องการความมั่นคงของระบบสาธารณูปโภคของพี่น้องประชาชนที่สำคัญ เช่น ระบบไฟฟ้า ระบบประปา และระบบสื่อสาร จะเกิดความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และวางแผนการป้องกันภัยคุกคาม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย เฝ้าระวังการก่อเหตุ

วันนี้ 11 มีนาคม 2568 เวลา 09.00 น. ที่ห้องประชุมฝ่ายปฏิบัติการภาคใต้ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ร่วมประชุมกับผู้บริหารหน่วยงานการไฟฟ้า และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินงาน ให้มั่นใจว่าการดำเนินงานเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ตลอดจนหารือเพิ่มมาตรการเฝ้าระวัง ป้องกันภัยคุกคาม ที่เกิดจากความมั่นคงหรือภัยพิบัติที่จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

โดยแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “การประชุมดังกล่าวเป็นการประชุมครั้งที่ 2 แล้ว หลังจากรับทราบปัญหาข้อขัดข้อง ซึ่งก็ได้ติดตามผลการดำเนินงานมาโดยตลอด ทั้งนี้อยากให้หน่วยได้ร่วมกันหารือ ร่วมกันบูรณาการเพื่อจะปรับแนวทางในการรักษาความปลอดภัยระบบสาธารณูปโภคในส่วนของการไฟฟ้า ให้ปลอดภัยจากการก่อกวน ก่อเหตุ ของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง โดยให้ยึดกรอบแนวทางการขับเคลื่อนงานตามแผนเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ระบุเป็นแผนปฏิบัติการด้านรัฐวิสาหกิจและระบบสาธารณูปโภค เพื่อจัดระบบให้กับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจการไฟฟ้า ให้สามารถบริการประชาชนได้อย่างปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมาก็พบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามที่จะก่อเหตุรุนแรง โดยการกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐให้เกิดความเสียหาย ทั้งตัวบุคคล และหน่วยงานราชการ ซึ่งระบบสาธารณูปโภคก็เป็นเป้าหมายสำคัญในการสร้างสถานการณ์ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ด้วย ดังนั้น การจะทำให้ระบบเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เจริญขึ้นได้ เราก็จะให้ความสำคัญกับระบบโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้า ประปา เส้นทางคมนาคม สิ่งเหล่านี้จะต้องเกิดความปลอดภัยจึงสามารถทำให้เกิดการพัฒนาระบบเศรษฐกิจโดยรวมได้ ทั้งนี้จะต้องอาศัยความร่วมมือ ร่วมใจ จากทุกภาคส่วน ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่เข้ามามีส่วนร่วมของการรักษาความปลอดภัยนี้ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่า ระบบสาธารณูปโภคในพื้นที่ภาคใต้จะสามารถทำงานได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ แม้ในสถานการณ์ที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยก็ตาม”