เนื่องในโอกาสก่อนเข้าเดือนรอมฎอน ประจำปี 2568 นี้ ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีที่ได้ระบุให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 เวลาหลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 โดยในวันนี้ (26 กุมภาพันธ์ 2568) พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะฯ จึงถือโอกาสลงพื้นที่พบปะเยี่ยมเยียนประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประกอบด้วย ปัตตานี ยะลา นราธิาส และ สงขลา ที่สำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำแต่ละจังหวัด ส่วนจังหวัดนราธิวาสนั้นที่หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส โดยมี นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา , นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี , นายซาฟีอี เจ๊ะเลาะ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดนราธิวาส และ นายรุสดี บาเกาะ รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พร้อมด้วยคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดทั้ง 4 จังหวัด ร่วมให้การต้อนรับ ในการนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยังได้มอบกระเช้าและสิ่งของอุปโภคบริโภคที่ใช้ในห้วงเดือนรอมฎอนอีกด้วย
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกและมาตรการรักษาความปลอดภัย สนับสนุนการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวไทยมุสลิมอย่างต่อเนื่องให้เป็นไปตามแผนปฏิบัติการ 4683 – รอมฎอนสันติสุข เพื่อให้เดือนรอมฎอนปี 2568 เป็นเดือนแห่งสันติสุขอย่างแท้จริงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาอาจมีกลุ่มผู้เห็นต่างที่พยายามบิดเบือนหลักการศาสนา ซึ่งสร้างความกระทบกระเทือนต่อการปฏิบัติศาสนกิจของพี่น้องไทยมุสลิม ทั้งที่แท้จริงแล้วนั้น เดือนรอมฎอนคือเดือนอันประเสริฐของพี่น้องไทยมุสลิมที่ต้องปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการดูแลพื้นที่ ร่วมมือกับทางหน่วยงานภาครัฐในการป้องกันเหตุร้าย ช่วยกันแจ้งเบาะแสต่างๆ นำไปสู่พื้นที่ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย การใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรม สำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานนั้น ให้หน่วยคํานึงถึงวิถีชีวิตของพี่น้องชาวไทยมุสลิมเป็นสําคัญ ปรับแผนต่างๆ เพื่ออํานวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนอย่างเหมาะสม โดยไม่ให้กระทบต่อการถือศีลอดและการปฏิบัติศาสนกิจของประชาชน นอกจากนี้ควรส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางสังคมผ่านกิจกรรมละศีลอด เพราะการดําเนินการเหล่านี้จะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างภาครัฐและประชาชน เสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของหน่วยงาน รวมถึงสร้างการตระหนักรู้และความเข้าใจแก่เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับ หลักปฏิบัติ ข้อห้าม และข้อจำกัดของเดือนรอมฎอน สิ่งสำคัญขอให้มีการส่งเสริมการแต่งกายตามอัตลักษณ์มลายูด้วย”
ด้าน นายศักดิ์กรียา บิลแสละ ประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า “ในห้วงเดือนรอมฎอนเป็นเดือนที่พี่น้องมุสลิมทั่วโลกจะถือศีลอด ซึ่งเป็นกิจกรรมภาคบังคับของมุสลิมทุกคนที่จะต้องปฏิบัติ เพราะฉะนั้น นอกจากที่จะต้องอดอาหารแล้ว ก็จะต้องสำรวมกิริยาวาจา สำรวมจิตใจให้อยู่ในครรลองของศาสนา มุสลิมทุกคนจะตั้งใจปฏิบัติศาสนกิจด้วยความมุ่งมั่นและเสียสละ ให้ได้ชำระล้างการปฏิบัติที่ผ่านมาตลอดทั้งปี จึงเป็นเดือนที่สำคัญมากสำหรับพี่น้องมุสลิม วันนี้ขอบคุณกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมทางศาสนาของพี่น้องมุสลิม และในเดือนรอมฎอนนี้ขอเชิญชวนพี่น้องมุสลิมทุกคนให้ตั้งอยู่ในความดี ความงาม งดเว้นการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ไม่ว่าจะเป็นการก่ออาชญากรรมต่างๆ ก็ขอให้ละเว้นนับจากเดือนรอมฎอนเป็นเบื้องต้น ในเดือนอันประเสริฐนี้หากใครทำความดีก็จะได้รับผลบุญเป็นทวีคูณ แต่หากใครที่มีการกระทำที่ไม่พึงประสงค์ ก็จะได้รับผลที่ไม่พึงประสงค์ด้วย อยากให้ทุกคนตระหนักและละเว้นเรื่องต่างๆ ที่ไม่ดีในช่วงนี้“
โอกาสนี้ นาย รุสดี บาเกาะ รองประธานกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ได้กล่าวขอบคุณกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ว่า “ขอขอบคุณทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ได้มอบสิ่งของอุปโภคบริโภคเหล่านี้เพื่อไปประกอบศาสนกิจในห้วงเดือนรอมฎอน จะนำสิ่งที่ได้รับมอบส่งให้กับทางโต๊ะอิหม่ามแต่ละอำเภอ เพื่อนำไปประกอบการละศีลอด และมอบของบางส่วนให้กับทางเรือนจำในพื้นที่ที่มีความจำเป็นต้องการใช้สิ่งของเหล่านี้ ทางสำนักงานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา ยินดีที่จะเป็นสื่อกลางในการประสานงานบูรณาการทุกมิติ เพื่อนำสันติสุขมาสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้”
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ฝากถึงประชาชนในเรื่องการงด ซื้อ-ขาย-ใช้ พลุ ประทัด และดอกไม้เพลิงทุกชนิด เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจตามประเพณีและวัฒนธรรมอันเต็มเปี่ยมด้วยความสงบ ศรัทธา เชื่อมั่นต่อองค์ศาสดา เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ปราศจากการแทรกแซง และเหตุการณ์รบกวนที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงในห้วงตลอดห้วงเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446
