
ตามที่ได้เกิดเหตุ คนร้ายลอบวางระเบิดแสวงเครื่องบริเวณหน้ามินิบิ๊กซี สาขาบันนังสตา ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อค่ำวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2568 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดสถานีตำรวจภูธรบันนังสตา ซึ่งออกปฏิบัติภารกิจรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 7 ราย แต่แรงระเบิดและสะเก็ดระเบิด กลับทำให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต จำนวน 1 ราย คือ นายต่วนอิบรอเฮง หนิมิ และได้รับบาดเจ็บอีก จำนวน 4 ราย

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติพี่น้องและครอบครัวของประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งได้สั่งการให้ทุกหน่วยเพิ่มความเข้มงวด มาตรการรักษาความปลอดภัย ในพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะพื้นที่เขตเมือง ที่มีประชาชนอยู่อาศัยและทำกิจกรรมต่างๆอย่างหนาแน่น

ต่อมาภายหลังเกิดเหตุได้มีเพจ Facebook ชื่อ Patani Ada Cerita ได้ออกมานำเสนอข้อความบิดเบือนและพยายาม ชี้นำให้พี่น้องประชาชนเกิดความเข้าใจผิดว่าการเสียชีวิตของ นายต่วนอิบรอเฮง หนิมิ เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ โดยเพจดังกล่าวได้ระบุถ้อยคำว่า “ ประชาชนที่เสียชีวิตจากเหตุระเบิดที่บันนังสตา นั้นเกิดจากสะเก็ดระเบิดจริงหรือจากกระสุนปืนตอบโต้กันแน่ เพราะหลังจากมีเสียงระเบิดดังก็มีเสียงปืน แต่ก็ไม่ชัดว่ามาจากทิศทางไหน จากบาดแผลของผู้เสียชีวิตแล้วน่าจะเหมือนรูกระสุน และตัวของผู้เสียชีวิตก็อยู่ห่างจากจุดระเบิดกว่าคนอื่นที่โดนระเบิดซะด้วย” จากข้อความดังกล่าวเห็นได้ชัดว่าผู้โพสต์พยายามชี้นำบิดเบือนว่าการเสียชีวิตของประชาชนผู้บริสุทธิ์เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งนี้จากการตรวจสอบกลับไม่พบว่า Pages ดังกล่าวมีที่มาอย่างไรและไม่สามารถยืนยันตัวบุคคลผู้โพสต์ได้ ซึ่งหากเป็น Pages ที่น่าเชื่อถือแล้ว จะสามารถรู้ที่มาและผู้โพสต์ต้องแสดงตนเพื่อยืนยันความหนักแน่นของข้อมูลให้สาธารณะชนได้รับทราบ

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอเรียนให้สาธารณะชนได้รับทราบว่าภายหลังเกิดเหตุระเบิดไม่มีเจ้าหน้าที่รายใดใช้อาวุธในการยิงตอบโต้ เนื่องจากพื้นที่เกิดเหตุอยู่ในเขตเทศบาลและอยู่ในห้วงเวลาที่ประชาชนเดินทางสัญจรและจับจ่ายซื้อของกันอย่างหนาแน่น ส่วนประชาชนผู้เสียชีวิตได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ผ่านจุดเกิดเหตุพอดีในเวลาที่เกิดระเบิด ทำให้สะเก็ดระเบิดถูกบริเวณไหปลาร้าด้านขวาส่วนล่างของต้นคอ และเข้าไปฝังอยู่ในปอด แต่ในขณะถูกสะเก็ดระเบิดผู้เสียชีวิตยังไม่รู้สึกตัว ว่าโดนสะเก็ดระเบิดเข้าสู่ร่างกาย จึงสามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ต่อไปได้ ประมาณ 150 เมตร จึงเริ่มรับรู้อาการผิดปกติและได้จอดรถจักรยานยนต์บริเวณริมทาง แล้วล้มตัวลงกับพื้นถนน และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ซึ่งบาดแผลจากการชันสูตรของแพทย์ สามารถ บ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่า เกิดจากสะเก็ดระเบิดของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งผลจากการเอ็กซเรย์พบว่ามีสะเก็ดระเบิดจากระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปฝังอยู่ในปอด ซึ่งลักษณะของบาดแผล และวัตถุที่ฝังอยู่ในร่างกาย ของผู้เสียชีวิต จะมีความแตกต่าง จากการถูกกระทำโดยกระสุนปืนชนิดต่างๆ อย่างสิ้นเชิง
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ใคร่ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนได้โปรดใช้วิจารณญาณในการติดตามข้อมูลและวิเคราะห์ข่าวสารจากสื่อออนไลน์ รวมทั้งขอให้พิจารณารับรู้ข้อมูลข่าวสารจากสื่อที่มีตัวตนและสามารถพิสูจน์ทราบที่มาของแหล่งข้อมูลได้เท่านั้น เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดจนอาจถูกชักนำไปกระทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้องและผิดกฎหมายต่อไปได้ รวมทั้งขอให้พี่น้องประชาชน หมั่นสังเกตสิ่งผิดปกติ ที่ได้พบเห็นในชีวิตประจำวัน เช่นบุคคลแปลกหน้า และวัตถุต้องสงสัย สามารถแจ้งมาได้ที่ หมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 รวมทั้งสามารถแจ้งได้กับเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกเสียงและทุกการแจ้งเตือนของท่าน จะสามารถทำให้ สังคมจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา ปลอดภัยจาก เหตุการณ์ ความรุนแรง และสามารถทำให้พื้นที่เกิดความสันติสุขอย่างยั่งยืน ได้ต่อไป