วันนี้ (18 ก.พ.68) นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของทัพเรือภาคที่ 2 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 (ศรชล.ภาค 2) ที่ห้องประชุม ทัพเรือภาคที่ 2 อำเภอเมืองสงขลา
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวว่า ในนามของรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ขอแสดงความชื่นชมและขอบคุณที่ได้ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ ปฏิบัติหน้าที่อย่างดีมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของทหารและกองทัพ ทั้งนี้การปฏิบัติงานเพื่อปกป้องและรักษาอธิปไตยทางทะเล การรักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่ และช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ถือเป็นภารกิจที่สำคัญต่อประเทศชาติและประชาชน ขอให้ดำรงการปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ
“…ทัพเรือภาคที่ 2 เป็นการทำงานที่ครอบคลุมดูแลชายฝั่งทะเลอ่าวไทยด้านล่างทั้งหมด มาครั้งนี้อยากรู้ว่าทำงานในภารกิจต่าง ๆ เป็นอย่างไรบ้าง ติดปัญหาด้านการปฏิบัติงานอย่างไรบ้าง และนำความปรารถนาดีมาบอกว่า รัฐบาลเองให้การสนับสนุน อยากให้ปรับกำลังพล ปรับภารกิจต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง และมีอะไรที่ช่วยได้ ก็ยินดี…”
นายภูมิธรรม เวชยชัย กล่าวด้วยว่า สำหรับแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถของทัพเรือภาคที่ 2 จะเน้นด้านการปฏิบัติการทางเรือในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่าง ซึ่งจะติดตามและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ด้านพลเรือโท นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค 2 กล่าวว่า ทัพเรือภาคที่ 2 ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการพิทักษ์รักษาและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ เสริมสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศ
ทั้งนี้ ทางด้านผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 ประกอบด้วยพื้นที่สำคัญทางเศรษฐกิจและความมั่นคง รวมทั้งพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนและพื้นที่ร่วมพัฒนา 3 พื้นที่ มีเส้นทางคมนาคมทางทะเลเข้าออกระหว่างประเทศ ซึ่งผ่านพื้นที่ทัพเรือภาคที่ 2 มีเรือสินค้า เรือน้ำมัน เรือสำราญ ผ่านพื้นที่กว่า 86,000 ลำต่อปี อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญ มีจำนวนนักท่องเที่ยว ประมาณ 4 ล้านคนต่อปี
ในการปฏิบัติการรักษาความมั่นคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ทัพเรือภาคที่ 2 ได้บูรณาการการปฏิบัติกับ ศรชล.ภาค 2 ตั้งแต่การวางแผนการลาดตระเวนของกำลังทางเรือและอากาศยานให้สามารถลาดตระเวน ตรวจการณ์แสดงกำลังได้อย่างครอบคลุมพื้นที่ปฏิบัติการ สอดคล้องกับสถานการณ์ความมั่นคงทางทะเล สร้างความมั่นใจให้กับผู้ปฏิบัติงานบนแท่นผลิต ผู้ประกอบอาชีพในทะเลและชายฝั่ง นอกจากนี้ยังสนับสนุนหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ปฏิบัติการร่วมกับหน่วยเฉพาะกิจทางบกในการควบคุมพื้นที่ทางทะเลเพื่อจำกัดการปฏิบัติการของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง
มีผลการปฏิบัติที่สำคัญในห้วงเดือนตุลาคม 2567 ถึงเดือนมกราคม 2568 รวม 22 ครั้ง ประกอบด้วย การถวายความปลอดภัย 2 ครั้ง การจับกุมเรือประมงต่างชาติรุกล้ำน่านน้ำ 3 ครั้ง การค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล 13 ครั้ง การจับกุมยาเสพติดทางบก 3 ครั้ง และการจับกุมสินค้าผิดกฎหมาย 1 ครั้ง ที่สำคัญยังใช้ศักยภาพที่มีอยู่ของกองทัพในการพัฒนาประเทศ และการช่วยเหลือประชาชน อาทิ การบรรเทาสาธารณภัย กรณีเหตุอุทกภัยพื้นที่ภาคใต้ที่ผ่านมา รวมทั้งสนับสนุนรัฐบาลและส่วนราชการอื่น ๆ ในการแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วนของประเทศ
สำหรับทัพเรือภาคที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนชาทัศน์ ตำบลบ่อยาง อำเภอเมืองสงขลา มีภารกิจในการป้องกันราชอาณาจักรและรักษาความมั่นคง รวมทั้งผลประโยชน์ของชาติทางทะเลในพื้นที่รับผิดชอบจากภัยคุกคามต่าง ๆ และดำเนินการเกี่ยวกับการฐานทัพ การป้องกันพื้นที่ สารวัตรทหาร กิจการพลเรือน การควบคุมเรือพาณิชย์ ตามที่ได้รับมอบหมาย
โดยมีพื้นที่รับผิดชอบทางทะเล ในพื้นที่อ่าวไทยตอนล่างต่อเนื่องจากทัพเรือภาคที่ 1 ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีจนถึงจังหวัดนราธิวาส รวม 5 จังหวัด มีความยาวตลอดแนวชายฝั่ง 776 กิโลเมตร คิดเป็นพื้นที่อาณาเขตทางทะเลกว่า 100,000 ตารางกิโลเมตร พร้อมกันนี้ได้แบ่งพื้นที่ปฏิบัติด้านเหนือและด้านใต้ เพื่อวางกำลังทางเรือให้ครอบคลุมและเหมาะสม ตามขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางเรือ ของเรือตามประเภท เพื่อรองรับสถานการณ์จากภัยคุกคามต่าง ๆ