วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

รมช.นิพนธ์ วางศิลาฤกษ์ ก่อสร้างสระว่ายน้ำ สนามติณสูลานนท์ สงขลา เตรียมยกระดับ เรื่องกีฬาเมืองสงขลาสู่ระดับสากล

วันที่ 21 มิถุนายน 2563 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางมาเป็นประธานวางศิลาฤกษ์สระว่ายน้ำ สนามกีฬาติณสูลานนท์ ขนาด 50 เมตรขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

โดยมีนายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นายประพันธ์ ศรีสุวรรณ ปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาปฏิบัติหน้าที่นายก อบจ.สงขลา พร้อมด้วยข้าราชการและเจ้าหน้าที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และแขกผู้มีเกียรติร่วมในพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ทั้งนี้ รมช.มท.ได้ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ โดยจุดเทียนบูชาฤกษ์ และเจิมแผ่นศิลาฤกษ์

นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มท. กล่าวว่า จากการที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้รับการถ่ายโอนสนามกีฬาติณสูลานนท์ จากการกีฬาแห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 และได้ดำเนินการโครงการสงขลาศูนย์กีฬาภาคใต้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2558 ถึงปัจจุบัน ได้จัดสรรงบประมาณในการดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นเงิน 610,000,000 ล้านบาท ซึ่งประกอบด้วยงานปรับปรุงอาคารอัฒจันทร์หลักสนามฟุนบอล งานปรับปรุงอาคารโรงยิมเนเซียม งานก่อสร้างศูนย์ฝึกอบรมและพัฒนาการกีฬา งานก่อสร้างสนามฟุตบอลหญ้าเทียม และการปรับภูมิทัศน์สนามกีฬาติณสูลานนท์ เพื่อให้มีมาตราฐานในระดับสากล เป็นการส่งเสริมและสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพ และการกีฬาของประชาชนในจังหวัดสงขลา นอกจากนี้ยังได้ใช้ประโยชน์อีกมากมาย อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการจัดกิจกรรม และการแข่งขันกีฬาในระดับชาติ จนถึงในระดับนานาชาติ

รมช.มท.กล่าวต่อว่า ครั้งนี้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ดำเนินโครงการก่อสร้างสระว่ายน้ำ สนามกีฬาติณสูลานนท์ ขนาด 50 เมตร โดยว่าจ้างบริษัท บีพีเค คอนสตรัคชั่น จำกัดดำเนินการก่อสร้างด้วยงบประมาณ 74,800,000 บาทใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 600 วัน เพื่อให้มีมาตราฐานและสามารถใช้จัดการแข่งขันกีฬาในระดับชาติ และในระดับนานาชาติซึ่งจะเป็นการพัฒนาสนามกีฬาติณสูลานนท์ ให้สามารถใช้ประโยชน์ได้มากยิ่งขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถรองรับการออกกำลังกายของประชาชน รวมทั้งรองรับการเป็นเมืองแห่งกีฬาของจังหวัดสงขลา และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ เรื่องการดูแลรักษา การสร้างนั้นง่ายแต่การดูแลรักษานั้นยาก เมื่อมีโครงการพัฒนาต่างๆใดได้ตั้งขึ้น เราจะต้องคำนึงถึงเรื่องจิตสำนึกต่อการใช้ การดูแล ร่วมกันจึงจะทำให้การพัฒนาในเรื่องต่างๆบรรลุประโยชน์สูงสุด

ต่อจากนั้น รมช.มท.ได้กล่าวขอบคุณหัวหน้าส่วนราชการ และทุกภาคส่วนในนามของรัฐบาล ที่ได้ช่วยกันตลอดกว่า 4 เดือน ในการควบคุมดูแลการระบาดของโรคโควิด-19 แม้ในขณะนี้จะไม่พบผู้ติดเชื้อก็ตาม แต่เราก็ยังประมาทไม่ได้ ดังนั้นเราจึงต้องรักษามาตราฐานเดิมไว้คือ การ์ดอย่าตก ใช้หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ออกจากบ้าน และการรักษาระยะห่าง จึงต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนอีกครั้งในนามของตัวแทนรัฐบาล