ตามที่ปรากฏการนำเสนอข่าวสารในสื่อออนไลน์ ผ่านเพจ Facebook เพจหนึ่ง ที่มีการเผยแพร่ในลักษณะ แจ้งเตือนโดยใช้ข้อความบิดเบือนในทำนองว่า โปรดระวัง ใครมีเสื้อกันฝนสีน้ำเงินและสีเขียว หลีกเลี่ยงในการสวมใส่ก่อน ณ ช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะคนที่มีบ้านอยู่ใกล้เคียงกับสถานที่เกิดเหตุ อาจจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่มีบุคคล 2 คน ใส่เสื้อกันฝน 2 สีนี้ ใช้ในการอำพรางตัวในการก่อเหตุขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ด่านตรวจบ้านบาตู หมู่ที่ 6 ตำบลปะลุกาสาเมาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 3 ลูก เมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา รวมถึงยังมีข้อความในหลายประเด็นที่กล่าวอ้างเพื่อบิดเบือนถึงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งจากกรณีดังกล่าว กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเรียนชี้แจงให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบข้อเท็จจริง ดังนี้
1. การกล่าวอ้างในประเด็น ที่มีการแจ้งเตือนให้พี่น้องประชาชนที่พักอาศัยอยู่บริเวณที่เกิดเหตุ หลีกเลี่ยงการสวมใส่เสื้อกันฝนน้ำเงินและสีเขียว อาจจะตกเป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น ขอให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ไม่ตื่นตระหนก ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ไม่ต้องกังวลต่อประเด็นดังกล่าว เนื่องจากในการบังคับใช้กฎหมายต่อผู้ต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดย แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 มีนโยบายและสั่งการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัดในทุกขั้นตอน และพร้อมเปิดโอกาสให้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเองตามขั้นตอนของกฎหมาย หากมีประเด็นการร้องเรียน หรือเกิดการร้องเรียนกล่าวอ้างว่าเจ้าหน้าที่ละเมิดสิทธิมนุษยชน สามารถเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงได้ทุกกรณี
2.ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ยังคงเร่งดำเนินการติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงอย่างเร่งด่วน เพื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการของกฎหมาย ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ส่งผลเสียต่อระบบเศรษฐกิจในพื้นที่ เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการ รวมถึงทำให้พี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ เด็ก และเยาวชน ได้รับบาดเจ็บทั้งทางร่างกายและจิตใจ
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอให้พี่น้องประชาชน อย่าหลงเชื่อคำกล่างอ้าง จากสื่อสังคมออนไลน์ ที่เป็นเพจแนวร่วมต่างๆ ที่พยายามออกมาบิดเบือน กล่าวหาโจมตีการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งยุยงปลุกปั่น มีเจตนาทำให้สังคมเกิดความสับสน และขอให้พี่น้องประชาชน ได้โปรดใช้วิจารณญาณในการเปิดรับข้อมูลข่าวสารอย่างรอบด้าน ตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนที่จะเชื่อ หรือส่งต่อข้อมูลดังกล่าวออกไป เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของขบวนการที่มุ่งทำลายความเชื่อมั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสังคมโดยรวม และจะมีความผิดทางกฎหมาย ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้โดยตรงที่สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. หมายเลข 1341 หรือติดตามได้ทางเพจ Facebook ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า – เพจใหม่ เพื่อที่จะได้รับทราบข้อมูลข่าวสารข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและเป็นจริงต่อไป