จากกรณีเหตุการณ์ คนร้ายใช้อาวุธปืนสงครามลอบยิง นายนาฟี มะ เสียชีวิต อยู่ในรถยนต์กระบะและได้เผารถยนต์จนเกิดเพลิงไหม้ บริเวณถนนหน้าเทศบาล หมู่ที่ 3 ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุดวันนี้ (7 สิงหาคม 2567) พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 10 รายงานผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานจากวัตถุพยานที่ตรวจยึดได้ในที่เกิดเหตุ พบประวัติของปลอกกระสุนปืน ขนาด 7.62 มิลลิเมตร จำนวน 9 ปลอก ตรวจพบว่าเคยใช้ยิงก่อเหตุมาแล้ว จำนวน 5 คดี ดังนี้
คดีที่ 1 เหตุยิงคนหาของป่า รวม 7 คน เป็นเหตุให้ ดาบตำรวจ สมจิตร ชูดำ เสียชีวิต และราษฎร บาดเจ็บอีก 6 ราย บนถนนสายทุ่งยางแดง – รามัน หมู่ที่ 2 บ้านจะรังตาดง ตำบลท่าธง อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2561
คดีที่ 2 เหตุยิง นายมาหามะ มะเช็ง เสียชีวิต ขณะกำลังรดน้ำสวนแตงโม โดยมีนางสาว ฆอลีเย๊าะ อีแม็ง ซึ่งเป็นภรรยา บริเวณสวนแตงโม (กลางทุ่ง) หมู่ที่ 3 ตำบลตะโนะแมะนา อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2562
คดีที่ 3 เหตุยิง นายอาดือนันท์ ดอเลาะ อายุ 48 เสียชีวิต ซึ่งขับขี่รถจักรยานยนต์กลับมาจากมัสยิดกระทั่งมาถึงบ้านและกำลังจอดรถจักรยานยนต์ที่บริเวณหลังบ้าน เหตุเกิด บ้านเลขที่ 21/4 หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2567
คดีที่ 4 เหตุยิง จ่าสิบเอก รุลลัน ดอเลาะ เสียชีวิต บริเวณ บ้านไม่มีเลขที่ หมู่ที่ 5 ตำบลคาโต อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 13 เมษายน 2567
คดีที่ 5 เหตุยิง นายนาฟี มะ เสียชีวิต อยู่ในรถยนต์กระบะและได้เผารถยนต์จนเกิดเพลิงไหม้ เหตุเกิดบนถนนหน้าเทศบาล หมู่ที่ 3 ตำบลพ่อมิ่ง อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี
ทั้งนี้ จากผลการตรวจพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ มีหลักฐานบ่งชัดของวัตถุพยานในที่เกิดเหตุนั้น คนร้ายเคยใช้ในการก่อเหตุหลายคดีในพื้นที่ ทั้งกับเจ้าหน้าที่รัฐและพี่น้องประชาชนผู้บริสุทธิ์ มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความสูญเสียทั้งในชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง