วันอาทิตย์, 24 พฤศจิกายน 2567

รอง เลขาธิการ กอ.รมน. ภาค 4 สน. เป็นประธานพิธีปิดการฝึกอบรมนักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่ ในยุคดิจิทัล รุ่นที่ 3 เพิ่มทักษะ ความสามารถ ให้เยาวชนในพื้นที่ จชต. สู่การเป็นนักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่แบบมืออาชีพ

วันนี้ (25 กรกฎาคม 2567) เวลา 13.30 น. ที่โรงแรมตันหยง ตำบลบางนาค อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พันเอก อนุชา โนนคู่เขตโขง รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เป็นประธานในพิธีปิดการฝึกอบรมหลักสูตร “นักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่ ในยุคดิจิทัล (Young Digital PR) รุ่นที่ 3 เพิ่มทักษะ และขีดความสามารถในการเป็นนักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่ ให้เป็นมืออาชีพ ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็นเยาวชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วงอายุ 16 – 25 ปี โดยมี ผู้แทนหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, หน่วยเฉพาะกิจสันติสุข, หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ, ทหาร, ตำรวจ, คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา พร้อมเยาวชนที่เข้ารับการอบรมร่วมในพิธี

โอกาสนี้ รองเลขาธิการ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า “เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่ดี ที่ได้เห็นเยาวชนรุ่นใหม่ได้มีโอกาสพัฒนา และเพิ่มทักษะขีดความสามารถในการเป็นนักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่ที่มีความเป็นมืออาชีพ และสามารถประสานงานในการประชาสัมพันธ์กับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า รวมถึงเป็นการต่อยอดน้อง ๆ เยาวชนในการเรียนหรือการประกอบอาชีพต่อไปในอนาคตได้ ซึ่งน้อง ๆ เยาวชนเหล่านี้ จะเป็นเยาวชนที่มีคุณภาพ เป็นนักประชาสัมพันธ์ที่เพียบพร้อมไปด้วยความรู้ความสามารถ รวมถึงเป็นสื่อกลางในการสร้างการรับรู้ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในสังคมหรือชุมชนของตนเองได้ต่อไปในอนาคต“

ทั้งนี้ การฝึกอบรมหลักสูตร “นักประชาสัมพันธ์รุ่นใหม่ ในยุคดิจิทัล (Young Digital PR)” รุ่นที่ 3 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23 – 25 กรกฎาคม 2567 ซึ่งน้อง ๆ เยาวชนผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ให้ความสนใจตลอดการเข้าร่วมกิจกรรมฯ ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ พร้อมกับวิทยากรที่มีความสามารถ ร่วมถ่ายทอดประสบการณ์และองค์ความรู้ในงานด้านการประชาสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับน้อง ๆ เยาวชนในการเป็นตัวแทนของสถานศึกษา ตลอดจนสามารถเป็นสื่อกลางในการประสานความร่วมมือ ระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กับกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ เพื่อสร้างความรับรู้ด้านการประชาสัมพันธ์ อันจะเป็นส่วนหนึ่งในการนำเสนอผลงานที่มีประโยชน์ เผยแพร่ออกสู่สาธารณชนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ เพื่อนำไปสู่สันติสุข ภายใต้การอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมอย่างสร้างสรรค์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป