จากกรณีเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดบริเวณหน้าแฟลตที่พักตำรวจ สถานีตำรวจภูธร บันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งวันนี้ เมื่อ 9 กรกฎาคม 2567 หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย ในพื้นที่ หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า พบกลุ่มบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหว หลบซ่อนพักพิงในพื้นที่ ซึ่งจากการตรวจสอบพบมีความเชื่อมโยงเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุระเบิดบริเวณแฟลตที่พัก เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธร บันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าควบคุมตัว นาย อีดาบาตุลลอฮ หะยีเจ๊ะเต๊ะ ณ บ้านเลขที่ 60 หมู่ที่ 11 บ้านบ่อหิน ตำบลบ้านแหร อำเภอธารโต จังหวัดยะลา ซึ่งผลจากการตรวจค้นพบสิ่งของต้องสงสัย จำนวนหลายรายการ ปัจจุบันได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัยไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม และขยายผลต่อไป
ล่าสุด หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา และส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้ขยายผลเพิ่มเติม จนสามารถนำไปสู่ การเข้าควบคุมบุคคลต้องสงสัยได้อีก 2 ราย ดังนี้1.นายมูฮำหมัดฮานาฟี สะระยะ ที่อยู่ บ้านเลขที่ 212/1 หมู่ที่ 6 บ้านบือซู ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา2. นายอาซมัน มะแตหะ ที่อยู่ บ้านเลขที่ 346 หมู่ที่ 6 บ้านบือซู ตำบลบันนังสตา อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา
ปัจจุบันได้เชิญตัวผู้ต้องสงสัย ทั้ง 2 ราย ไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถาม และขยายผล หากมีรายละเอียดเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป
สำหรับในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด
ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ