วันพฤหัสบดี, 21 พฤศจิกายน 2567

รอง มทภ.4 ลงพื้นที่ติดตามและให้กำลังเจ้าหน้าที่ ฉก.ทพ.49 ย้ำการปฏิบัติ ให้นำความผิดพลาดเป็นบทเรียนและร่วมกันแก้ไขเพื่อกำหนดทิศทางการทำงานต่อไป

วันนี้ (6 กรกฎาคม 2567) เวลา 09.00 น. พลตรี ไพศาล หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจ หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส พร้อมประชุมหารือและติดตามสถานการณ์ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม ที่ผ่านมา กรณีหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย จากนั้นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ จากนั้นเมื่อวันนี้ 5 กรกฎาคม 2567 เจ้าหน้าที่เข้าทำการพิสูจน์ทราบพื้นที่บริเวณโดยรอบ ระหว่างนั้นได้เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณภายในป่าพื้นที่บ้านไอร์กูเล็ง (บ้านย่อย บ้านตืองอ) หมู่ที่ 3 ตำบลศรีบรรพต อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส แรงระเบิดทำให้ จ่าสิบโท วสันต์ เพชรสังหาร อายุ 32 ปี หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาส ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณขาทั้งสองข้าง (ขาข้างซ้ายขาด และขาข้างขวามีบาดแผลฉีกขาดผิดรูป) ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยมี ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 รวมทั้งส่วนที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับและร่วมประชุม

โดย รองแม่ทัพภาคที่ 4 ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความผิดพลาดที่ต้องมาร่วมกันแก้ไข นำไปเป็นบทเรียน และจะถอดบทเรียนเพื่อนำไปสู่การปฏิบัติและกำหนดทิศทางต่อไป จากการติดตามสถานการณ์ ยังมีบางจุดที่เป็นจุดล่อแหลม ให้เจ้าหน้าที่มีความรัดกุม และมีความระมัดระวังมากยิ่งขึ้น หมั่นสังเกต วิเคราะห์ วางแผน กำหนดเส้นทางจรยุทธ์ สำหรับพื้นที่สิ่งที่เฝ้าระวังตาม ป่า ภูเขา ทั้งเดินเท้าและยานพาหนะให้ศึกษาเส้นทางอย่างละเอียดถี่ถ้วน โดยเฉพาะเรื่องการติดต่อสื่อสาร ให้มีการประสานกันอย่างต่อเนื่อง และโอกาสนี้ได้นำความห่วงใยและข้อเน้นย้ำ ของ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ถึงแนวทางการปฏิบัติ โดยเฉพาะในเรื่องของการติดตามสถานการณ์ด้านการข่าว,ให้เจ้าหน้าที่ทุกนายมีความตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ไม่ประมาท มีสติ เรียนรู้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียน และนำมาปรับปรุงแก้ไข เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดต่อไป

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือหมายเลขสายด่วน 1341 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ