วันนี้ (19 มิถุนายน 2567) เวลา 07.55 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางเยี่ยมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานเป็นขวัญกำลังใจมอบให้แก่เจ้าหน้าที่และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ โดยมี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ กำลังพลและประชาชนให้การต้อนรับ ณ ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ในการนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้เชิญสิ่งของพระราชทาน จำนวน 50 ชุด พร้อมพบปะให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด รถจักรยานยนต์บอมบ์บริเวณหน้าเขื่อนท่าพระยาสาย เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส ส่งผลให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนบาดเจ็บ 2 นาย ประชาชนได้รับบาดเจ็บ 8 คน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2567 และเหตุวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 คนร้ายลอบวางระเบิดสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ชุดคุ้มครองตำบลจวบ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ได้รับบาดเจ็บ 6 นาย จากนั้นเชิญสิ่งของพระราชทาน จำนวน 70 ชุด มอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส
เพื่อเป็นขวัญกำลังใจจากเหตุคนร้ายซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจชุมชนสัมพันธ์ สถานีตำรวจภูธรศรีสาครบาดเจ็บ 1 นาย วันที่ 24 เมษายน 2567 และเหตุคนร้ายขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ พร้อมใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาสที่ 33 จนได้รับบาดเจ็บ 4 นาย วันที่ 29 เมษายน 2567 รวมถึงเหตุวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 คนร้ายลอบวางระเบิดสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ ที่บ้านไอยามู อำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้สมาชิกกองอาสารักษาดินแดนเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 7 นาย ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุด EOD เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ และได้เหยียบกับระเบิดจนบาดเจ็บอีก 1 นาย รวมทั้งติดตามสถานการณ์ด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ณ องค์การบริหารส่วนตำบลคอลอตันหยง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมทั้งเชิญสิ่งของพระราชทานอีกจำนวน 30 ชุด มอบแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงภายในงานแข่งขันกีฬาประจำปีองค์การบริหารส่วนตำบลคอลอตันหยง ที่บริเวณสนามฟุตบอล พื้นที่หมู่ 2 ตำบลดาโต๊ะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บ 3 คน
โอกาสนี้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้นำพระราชกระแสความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พร้อมอัญเชิญสิ่งของพระราชทานมามอบให้เจ้าหน้าที่และประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ และกำลังพลที่ปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นขวัญ กำลังใจ ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใย และติดตาม ช่วยเหลือ สนับสนุน อย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งทรงพระราชทานกำลังใจ ทรงขอบใจ ชื่นชมครอบครัวของเจ้าหน้าที่ผู้เสียสละ และสนับสนุนอยู่เบื้องหลังในการปฏิบัติหน้าที่ ของบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัว พร้อมย้ำว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายต้องมีสติรู้ตัว ด้วยปัญญา มีเหตุ มีผล มีความระมัดระวังเสมอ ต้องวางแผนให้รัดกุม รอบครอบ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจทันทีเมื่อเกิดเหตุและนำข้อผิดพลาดเป็นบทเรียนแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น
จากนั้น องคมนตรีและคณะฯ เดินทางไปยังกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังสรุปความคืบหน้าคดีสำคัญ จากกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมหารือและสรุปแนวทางการดำเนินงานการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนมอบนโยบายและแนวทางการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยแก่เจ้าหน้าที่และประชาชนให้มากที่สุด พร้อมกำชับให้ดูแลส่งเสริมด้านการศึกษาแก่เด็กเยาวชนจากครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบ ให้ต่อยอดไปสู่การมีงานทำในอนาคต พร้อมให้กำลังใจทุกหน่วยงานที่ปฏิบัติภารกิจเพื่อพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลโท ปราโมทย์ พรหมอินทร์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / รองผู้อำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจ จังหวัดชายแดนภาคใต้, พันตำรวจโท วรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมฯ
และเมื่อเวลา 12.20 น. องคมนตรีและคณะฯเดินทางไปยังโรงเรียนพระดาบสจังหวัดชายแดนภาคใต้ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เพื่อติดตามการดำเนินงานโรงเรียนจากคณะกรรมการบริหารโรงเรียนพระดาบสฯ และส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างขยายอาคาร สถานศึกษาและหลักสูตรเพิ่มเติม เพื่อรองรับจำนวนผู้เรียนที่เพิ่มขึ้น และติดตามการมีงานทำของศิษย์พระดาบส รุ่นที่ 13/2566 และข้อมูลการรับสมัครนักเรียนใหม่ รุ่นที่ 14/2567 ตลอดจนได้มอบนโยบายการพัฒนาคุณภาพครูผู้สอน พัฒนาผู้เรียน และแนวทางการพัฒนาหลักสูตรให้สอดคล้องกับมาตราฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ สนองงานตามพระราชดำริและพระราชหฤทัยที่ทรงห่วงใยเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้เข้าถึงระบบการศึกษา โดยมูลนิธิพระดาบสสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มเยาวชนเหล่านี้ ให้มีความรู้ความสามารถและนำไปประกอบอาชีพได้จริงต่อไปในอนาคต
ก่อนเดินทางกลับองคมนตรีได้เชิญสิ่งของพระราชทานเยี่ยมติดตามอาการผู้บาดเจ็บจากสถานการณ์ที่พักรักษาตัว ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ตำบลหาดใหญ่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พร้อมทั้งได้เชิญพระราชกระแสแสดงความเสียพระราชหฤทัย และแสดงความห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวกับกำลังพลและครอบครัวกำลังพลทั้ง 4 นาย ได้แก่ อาสาสมัครทหารพราน มะรอนิง แกะซิ, อาสาสมัครทหารพราน อาซูวัน เปาะจิ , จ่าสิบตรี วรวิทย์ ณะรัตตะ และ สิบโท อดิศัย สุขศิริวัฒน์ ซึ่งทุกนายต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ สำหรับอาการบาดเจ็บของทุกนายรู้สึกตัวดี พูดคุยและรับประทานอาหารได้ปกติ ไม่พบความผิดปกติ และอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ พยาบาล อย่างใกล้ชิด
