วันนี้ ( 12 มิถุนายน 2567 ) เวลา 10.30 น. ณ กองบังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ศูนย์ฝึกอบรมกองกำลังประจำถิ่นท่าสาป อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ร่วมคณะฯ นายกองใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดน พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้เข้สรับการฝึกเสริมสร้างขีดความสามารถสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้ (หลักสูตรผู้นำ อส.จชต.) ภาคสนาม ประจำปี 2567 รุ่นที่ 3 จากอำเภอเมืองปัตตานี, อำเภอยี่งอ จังหวัดปัตตานี และ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส จำนวน 108 นาย โดยมีคณะที่ปรึกษาแม่ทัพภาคที่ 4 ,ผู้บังคับบัญชา ,ผู้บังคับการควบคุมกองอาสารักษาดินแดนจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข, หัวหน้าส่วนราชการ , หัวหน้าชุดคุ้มครองตำบล และผู้เข้ารับการฝึกฯ ร่วมให้การต้อนรับ
โดย พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 นำคณะรองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมพร้อมรับชมการฝึกในสถานที่กิจเฉพาะ อาทิ กิจเฉพาะด้านการข่าว , กิจเฉพาะด้านกิจการพลเรือน , กิจเฉพาะด้านปฏิบัติการจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ และกิจเฉพาะด้านยุทธวิธี
จากนั้น นายกองใหญ่ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้บัญชาการกองอาสารักษาดินแดนได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญให้กับผู้เข้ารับการฝึก พร้อมกล่าวให้โอวาทและนำความห่วงใยจากนายกรัฐมนตรี และผู้บังคับบัญชามายังผู้เข้ารับการฝึกทุกนาย ขอให้ทุกคนตั้งใจ อดทน เก็บเกี่ยวความรู้จากการฝึกให้ได้มากที่สุด และหมั่นพัฒนาความสามารถอยู่เสมอ ห้ามประมาท และมีสติตลอดเวลา เพื่อนำความรู้กลับไปพัฒนาการปฏิบัติภารกิจในพื้นที่ของตนเองได้อย่างรัดกุม เพื่อดูแลพี่น้องประชาชนคนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และร่วมสร้างพื้นที่ปลอดเหตุ ปลอดภัย นำความผาสุขสู่พี่น้องในชุมชยบ้านเกิดต่อไป
สำหรับการฝึกดังกล่าวเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล โดยกระทรวงมหาดไทยร่วมกับกองทัพบก มอบหมายให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า โดยหน่วยเฉพาะกิจสันติสุข นำองค์ความรู้และศักยภาพของกองทัพดำเนินการฝึกแก่สมาชิกกองอาสารักษาดินแดน เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถให้สอดคล้องกับความรับผิดชอบที่จะเพิ่มมากขึ้น ทั้งด้านการข่าว, ด้านยุทธวิธี โดยเฉพาะขีดความสามารถในการปฏิบัติงานมวลชน, การปฏิบัติงานจิตวิทยาและประชาสัมพันธ์ เพื่อที่จะเป็นกลไกหลักสำคัญในการต่อสู้ เกาะติดพื้นที่ เกาะติดมวลชน ป้องกันการพลิกกลับของสถานการณ์ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจป้องกันและปราบปรามการก่อความไม่สงบ ขับเคลื่อนงานการเมืองและงานการทหารช่วยเหลือประชาชนร่วมกับภาคประชาสังคม เพื่อสนับสนุนการเตรียมสภาพแวดล้อมรองรับยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้สอดคล้องภารกิจและอำนาจหน้าที่ของกรมการปกครองในด้านการรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ เพื่อสร้างสังคมให้เป็นระเบียบ ประชาชนมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน