เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2567 เวลา 23.30 น. เกิดเหตุคนร้ายลอบวางเพลิงเผาโรงไฟฟ้าชีวมวลในพื้นที่ ตำบลบ้านไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย โดยนายเจ๊มะแอ เจ๊มะ อดีตกำนันตำบลป่าไร่ ซึ่งเป็นหัวหน้าชุดรักษาความปลอดภัยโรงไฟฟ้าชีวมวล หมู่ที่ 7 ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัด ปัตตานี ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยด้านหน้าโรงงานไฟฟ้าชีวมวลฯ ระหว่างที่คนงานกำลังเฝ้าเครื่องผลิตไฟฟ้า ได้มีกลุ่มคนร้าย ประมาณ 10 คน แต่งกายชุดดำเข้ามาในโรงงานจากทางด้านหลัง จากนั้นได้ไล่คนงานที่เฝ้าเครื่องผลิตไฟฟ้าจำนวน 7 คน ให้ออกมาด้านหน้าโรงงาน ระหว่างนั้นกลุ่มคนร้ายได้จุดไฟเผารถเก๋งของคนงานก่อน และต่อจากนั้นได้ลอบวางเพลิงเผาตัวอาคารโรงไฟฟ้าชีวมวลทำให้ทรัพย์สินได้รับความเสียหาย ขณะเกิดเพลิงไหม้คนงานได้ยินเสียงระเบิดประมาณ 5 ครั้ง ตัวอาคารโรงไฟฟ้า ปัจจุบันควบคุมเพลิงได้แล้ว เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2567 เวลา 00.10 น. เกิดเหตุคนร้ายก่อกวนเผายางรถยนต์ จำนวน 2 จุด ในพื้นที่ จังหวัดสงขลา บริเวณใกล้สะพานเขตฝั่งทางเทพาในพื้นที่ หมู่ที่ 2 บ้านนาจวก ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อกับอำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี และเวลา 01.00 น. เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงไฟฟ้ารุ่งทิวาไบโอแมส บ้านปลักบ่อ หมู่ที่ 2 ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ ตรวจสอบวัตถุพยานและรวบรวมหลักฐานต่างๆโดยละเอียดเพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงของกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด ขอให้พี่น้องประชาชน รวมถึงผู้ประกอบการได้มีความมั่นใจ ว่ากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังคงยืนยันที่จะดูแลรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้ดีที่สุด เพื่อให้พี่น้องประชาชนสามารถประกอบกิจการ อาชีพ รวมถึงการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ตามปกติ สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ