วันเสาร์, 16 พฤศจิกายน 2567

‘นิพนธ์’ เตือนเฝ้าระวังพายุไซโคลน 20–22 มีนาคม นี้ กำชับทุกพื้นที่เฝ้าระวังและแจ้งเตือนประชาชน พร้อมรับมือตามแผนเผชิญเหตุ 24 ชม.

วันที่ 20 มีนาคม 2565 นายนิพนธ์ บุญญามณี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า กรมอุตินิยมวิทยา ได้ออกประกาศแจ้งเตือน “หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 20 – 22 มีนาคม 2565 “

โดยหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงที่ปกคลุมบริเวณอ่าวเบงกอลตอนล่าง มีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็น “พายุไซโคลน” ในช่วงวันที่ 20 – 22 มีนาคม 2565 คาดว่าจะเคลื่อนตัวทางทิศเหนือเข้าสู่อ่าวเบงกอลตอนบน และเคลื่อนเข้าปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมา แม้ศูนย์กลางของพายุจะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรงแต่จะทำให้ลมที่พัดเข้าหาศูนย์กลางพายุมีกำลังแรงขึ้น และพัดปกคลุมทางด้านตะวันตกของประเทศไทย ส่งผลทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น กับมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณภาคเหนือ ด้านตะวันตกของภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออก โดยมีฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักถึงหนักมากที่อาจจะเกิดขึ้นไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันตอนบนควรงดออกจากฝั่งในระยะนี้ไว้ด้วย

จากสถานการณ์ดังกล่าว ตนมีความห่วงใยต่อความปลอดภัยของชีวิตประชาชน จึงได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทั่วถึง ผ่านทุกช่องทางทั้งรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ สำหรับการบูรณาการการทำงานในพื้นที่ให้ผนึกกำลังร่วมแรงร่วมใจกัน เตรียมดำเนินการตามแผนป้องกันสาธารณภัยอย่างเคร่งครัด และเตรียมพร้อมรับมือ/เฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง หากเกิดเหตุการณ์ให้คาดฝันให้ดำเนินการอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยโดยเร็วที่สุด ช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบอย่างทันท่วงที ไม่ให้เกิดการสูญเสีย เน้นย้ำ! ต้องไม่มีการสูญเสียเกิดขึ้น ชีวิตประชาชนและเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานต้องมาเป็นอันดับแรก