วันอาทิตย์, 17 พฤศจิกายน 2567

“ไพเจน” ย้ำ อสม. คือบุคคลที่เสียสละ และอยู่เบื้องหลังของความสำเร็จในเรื่องของสาธารณสุขของประเทศไทย จนติดอันดับระดับประเทศ ขณะที่ อบจ.สงขลา รับถ่ายโอน รพ.สต. มาอยู่ในความดูแลแล้ว 49 แห่ง พร้อมผลักดัน สงขลาเป็นเมืองที่ประชากรผู้สูงอายุมีสุขภาพที่แข็งแรง

นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวแสดงความยินดี เนื่องในงาน วันอาสาสมัครสาธารณสุขแห่งชาติ อำเภอควนเนียง ประจำปี 2567 โดยมีนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส. เขต 5 พรรคปชป. นายประสิทธิ์ ช่วยชูสกูล เลขานุการนายก อบจ.สงขลา นายศดิศ ไชยศิริ สจ.อำเภอควนเนียง นายวินิจ เทพนิต นายอำเภอควนเนียง สาธารณสุขอำเภอควนเนียง ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่ิ่น ประธาน อสม.ประจำตำบลและ ประจำหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่ สสจ. อำเภอควนเนียง เจ้าหน้าที่ รพ.สต.อำเภอควนเนียง และสมาชิก อสม.อำเภอควนเนียง เข้าร่วมในการจัดงาน ณ ศาลาประชาคม ที่ว่าการอำเภอควนเนียง อำเภอควนเนียง จังหวัดสงขลา

นายไพเจนกล่าวช่วงหนึ่งว่า อสม.ถือเป็นบุคคลสำคัญที่คอยดูแลพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงด้านสุขภาพอนามัยของพี่น้องในชุมชน อีกภาระกิจหนึ่งของ อสม.คือการแก้ข่าวร้าย กระจายข่าวดี โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติ ในเรื่องของโควิด19 ที่ผ่านมา อสม.ถือเป็นผู้ที่มีความสำคัญ ทำให้การแพร่ระบาดของโควิด 19 ไม่รุนแรงเหมือนประเทศอื่นๆ จึงถือว่าประเทศไทยเรามีระบบสาธารณสุขในเรื่องการป้องกันได้ดีมาก จนได้รับการชมเชย เบื้องหลังก็คือพี่น้อง อสม.ของพวกเราทุกคน ที่สละเวลาความสุขส่วนตัวลงพื้นที่ดูแลพี่น้องในชุมชน ซึ่งประเทศไทยเราถือเป็นประเทศระดับต้นๆ ที่มีระบบสาธารณสุขที่ดีมาก นั่นก็เพราะพี่น้อง อสม. ของเรา

ปัจจุบันองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ใน 2 ปีที่ผ่านมาได้รับโรงพยาบาล รพ.สต.มาอยู่ภายใต้กองสาธารณสุข อบจ.สงขลา โดยมาด้วยความสมัครใจ รวมทั้งหมด 49 แห่ง จากทั้งหมด 175 แห่ง สสจ.ส่วนหนึ่งจะมีรพ.สต. ซึ่งส่วนหนึ่งก็จะอยู่กับ อบจ.สงขลา ซึ่งระหว่างอบจ.สงขลากับสาธารณสุขอำเภอ เราก็ยังทำงานร่วมมือกันด้วยดี แต่ไม่ว่าจะขึ้นกับกระทรวงสาธารณสุข หรือขึ้นกับกระทรวงมหาดไทย แต่ภารกิจก็ยังเหมือนเดิม ทั้งนี้สุดท้ายก็คือเพื่อช่วยกันดูแลในเรื่องของสุขภาพพี่น้องประชาชนเป็นหลัก ซึ่งองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาพยายามทำให้สงขลาของเรา เป็นจังหวัดหนึ่งที่มีประชากรผู้สูงอายุมีสุขภาพดีและแข็งแรง

สงขลาเราเป็นจังหวัดหนึ่งที่นับว่ามีดีหลายเรื่อง ทั้งในเรื่องของอากาศดี สงขลาเป็นจังหวัดที่มีอากาศดีเป็นอันดับหนึ่งของประเทศไทย และในเรื่องของอาหารก็มีดี เพราะเรามีทะเลสองเล ทั้งทะเลสาบและทะเลอ่าวไทย ทะเลสาบเป็นทะเลที่มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรสัตว์น้ำ โดยเฉพาะปลาขี้ตัง ซึ่งตอนนี้มีราคาแพงและขาดตลาด เพราะเป็นที่นิยมของผู้บริโภค ประกอบกับทะเลสาบเรามีร่องน้ำตื้นจึงทำให้ไม่สามารถที่จะขยายพันธุ์ปลาได้ดี ดังนั้น อบจ.สงขลา จึงให้งบประมาณกรมประมงในการเพาะพันธ์สัตว์น้ำไม่ว่าจะเป็น กุ้งก้ามกราม กุ้งแชบ้วย กุ้งขาว ปูดำ ปูม้า ปลาน้ำจืด ปลากดคลอง ปลานิล ปลาตะเพียน ปลาสองน้ำ ปลาบอกดำ โดยเฉพาะปลาขี้ตัง โดยอบจ.สงขลาให้ศูนย์วิจัยกรมประมงเป็นผู้เพาะพันธุ์ แล้วพาไปปล่อยลงทะเลสาบ ซึ่งได้ปล่อยไปแล้วครั้งแรกที่เกาะยอ เมื่อวันสงขลาที่ผ่านมา และจะพยายามปล่อยปลาอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะให้มันเติบโต และให้พี่น้องชาวประมงจับไปขายเพื่อสร้างรายได้ อีกทางหนึ่ง และตอนนี้เราก็ยังพยายามที่จะสร้างบ้านปลา ซึ่งตอนนี้เรามีทั้งฟาร์มทะเล และมีบ้านปลาทะเลหมายเลข 9 อยู่ที่ท่าเสาเป็นปลากดขี้เลน และกำลังจะทำบ้านปลาหมายเลข 10 ขึ้นที่วัดป่าขาด ให้เป็นบ้านปลาขี้ตังอีกแห่งให้อยู่หน้าวัด เพื่อให้เป็นเขตอภัยทาน เพื่อที่จะให้ปลาเติบโตมีไข่ และขยายพันธุ์ได้ เป็นการเพิ่มปริมาณของปลาขี้ตังในทะเลสาบให้มากขึ้น นี่ก็เป็นอีกเป้าหมายหนึ่งที่จะฟื้นฟูทะเลสาบสงขลาให้มีปลามากขึ้น โดยปีนี้อบจ.สงขลาจะทำบ้านปลา 72 จุด และให้กลุ่มชาวประมงกำหนดจุดว่า จะให้สร้างบ้านปลาตรงไหนบ้างใน 72 จุดที่ทาง อบจ.สงขลามีโครงการไว้ด้วยงบประมาณ 1.5 ล้านบาท