วันศุกร์, 15 พฤศจิกายน 2567

“ไพเจน” นำทีมขึ้น ฮ. บินสำรวจแนวชายฝั่งอ่าวไทย เร่งแก้ปัญหาแนวชายฝั่งอ่าวไทยอย่างเป็นรูปธรรม และเตรียมรองรับการแข่งขันกีฬามาราธอนชายหาด ครั้งแรกของไทย

วันที่24 กรกฎาคม 2564 นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนายปรีชัย มาละวรรณโณ ที่ปรึกษานายก อบจ.สงขลา และนายนิพัฒน์ อุดมอักษร เลขานุการนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา

ร่วมบินสำรวจพื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย โดยมี นาวาเอก วรวุฒิ สุนทรวิจิตร ผู้อำนวยการกองยุทธการ กองบัญชาการ ทัพเรือภาคที่ 2 (ผู้แทนผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2) ให้การต้อนรับ ซึ่งได้รับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จากกองพลพัฒนาที่ 4 ในการบินสำรวจตลอดแนวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ในการตรวจสอบทรัพยากรชายฝั่ง ป่าโกงกาง ป่าชายเลน การกัดเซาะชายฝั่ง และชายหาดอ่าวไทย เพื่อสำรวจและวางแผนในการแก้ไขปัญหาตลอดแนวชายฝั่งอ่าวไทยในพื้นที่จังหวัดสงขลา ซึ่งจะประสบปัญหาในเรื่องของน้ำกัดเซาะชายฝั่งทุกครั้ง เมื่อถึงฤดูมรสุม ทำให้เกิดความเสียหาย แก่บ้านเรือน และสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชนในแนวชายฝั่งที่ถูกน้ำกัดเซาะอยู่ตลอดเวลา

ทั้งนี้นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ได้ประกาศนโยบายในการพัฒนาจังหวัดสงขลา จำนวน 10 ด้าน ในคราวสมัยประชุมสามัญ สมัยแรก ประจำปี 2564 ซึ่งหนึ่งในการแถลงนโยบายการพัฒนาจังหวัดสงขลา ในด้านที่ 9 คือนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งถือว่า เป็นนโยบายที่สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันจังหวัดสงขลา ประสบกับปัญหาทรัพยากรชายฝั่งเสื่อมโทรม ระบบนิเวศในพื้นที่เกิดความเสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็ว และเมื่อเข้าสู่ช่วงมรสุม กระแสคลื่นที่มีกำลังแรงจึงกระทบชายฝั่งโดยตรง ทำให้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งมาโดยตลอด ดังนั้นนั้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว

และก่อให้เกิดผลการปฏิบัติงานสำเร็จลุล่วงอย่างเป็นรูปธรรม นำไปสู่การพัฒนาองค์กรให้สามารถรองรับนโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่หลากหลาย และเพิ่มประสิทธิภาพของการทำงานให้เห็นผลการปฏิบัติงานอย่างเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้ได้ขอความอนุเคราะห์จากกองพลพัฒนาที่ 4 เพื่อขึ้นบินสำรวจชายหาดฝั่งอ่าวไทยของจังหวัดสงขลา เริ่มจากอำเภอระโนดถึงอำเภอเทพา ซึ่งมีความยาวประมาณ 150 กิโลเมตร โดยธรรมชาติจะเป็นหาดทรายที่สวยงามของอ่าวไทย เพื่อที่จะสำรวจดูว่าถ้าเราจะจัดการแข่งขัน “กีฬามาราธอนชายหาด” พื้นที่ตรงไหนจะมีความเหมาะสม จึงได้ขอความอนุเคราะห์ เพื่อที่จะสำรวจดูความเหมาะสมของพื้นที่ที่จะจัดการแข่งขัน “กีฬามาราธอนชายหาด” ซึ่งการจัดการแข่งขัน “กีฬามาราธอนชายหาดสงขลา” นั้นมีความเหมาะสมที่จะจัดได้ เหตุเพราะเรามีหาดทรายที่สวยงามต่อเนื่อง และคาดว่าจะเป็นการจัด “กีฬามาราธอนชายหาด” เป็นแห่งแรกของประเทศไทยด้วย ซึ่งก็จะได้มีการสำรวจทางภาคพื้นดิน โดยการเดินสำรวจตามแนวชายหาดอีกครั้งหนึ่ง

สำหรับบริเวณแนวชายหาดที่ได้รับผลกระทบในขณะนี้ ชายหาดบางพื้นที่ยังคงได้รับผลกระทบในช่วงฤดูมรสุม ซึ่งจะมีคลื่นลมแรง ทำให้เกิดคลื่นกัดเซาะชายฝั่ง และหลายพื้นที่ก็ยังคงได้รับผลกระทบ ขณะนี้หลายพื้นที่ก็กำลังดำเนินการก่อสร้างเขื่อนเพื่อป้องกันการกัดเซาะ และป้องกันไม่ให้พี่น้องประชาชนที่อยู่อาศัยบริเวณแนวริมชายหาดได้รับผลกระทบ จากบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ซึ่งมีหลายพื้นที่ และตอนนี้ก็ยังมีประชาชน บริเวณแนวชายฝั่งแถวที่อยู่อาศัยบริเวณตำบลท่าบอน อำเภอระโนดยังคงได้รับผลกระทบอยู่ ซึ่งขณะนี้ก็กำลังดำเนินการก่อสร้างเขื่อนกั้นคลื่น โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลาได้ให้การสนับสนุนงบประมาณส่วนหนึ่งในปีงบประมาณ 2564 และ 2565 ในการก่อสร้างเขื่อนกันคลื่นกัดเซาะในพื้นที่อำเภอระโนด

ในส่วนของการเตรียมการรองรับในช่วงฤดูมรสุมที่กำลังจะมาถึง โดยเฉพาะตามแนวคลองต่างๆในขณะนี้ ซึ่งคลองอาทิตย์และสาขาของคลองอาทิตย์ต่างๆที่มีวัชพืชขึ้นปกคลุมจำนวนมาก จะเป็นส่วนที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ก็จะมีการแจ้งประสานไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบของพื้นที่ ที่อำเภอระโนด และอำเภอกระแสสินธุ์ให้ดำเนินการตรงนี้ต่อไป ส่วนคลองที่ไม่อยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของโครงการ ก็จะร่วมมือกับทางท้องถิ่นและหลายๆท้องที่เพื่อร่วมกันจัดหาเครื่องมือ เครื่องจักรกลมากำจัดวัชพืช เพื่อที่จะให้น้ำในคลองได้นำกลับมาใช้ในการอุปโภคบริโภค และใช้ในการเกษตรต่อไป