วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้การสัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนจาก สถานีโทรทัศน์ Astro Awani ประเทศมาเลเซีย โดยมี DR AZLINARIAH ABDULLAH : Editor Astro Awani พร้อมทีมข่าว เกี่ยวกับประเด็น ความร่วมมือของประเทศไทยและมาเลเซียในการร่วมมือกันแก้ไขปัญหาการลักลอบลำเลียงยาเสพติดไปยังประเทศที่ 3 ได้อย่างไร และมีแนวคิดในการแก้ปัญหาการค้ายาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างไร ตลอดจนความร่วมมือเพื่อให้ประชาชนของทั้งสองประเทศไทย-มาเลเซีย ได้ใช้เส้นทางที่ถูกกฎหมายในการข้ามแดน โดยไม่กระทบต่อวิถีชีวิตของประชาชนตามแนวชายแดน และไม่กระทบต่อการส่งเสริมผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ รวมไปถึงข้อคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสของกลุ่มบุคคล/องค์การระหว่างประเทศบางกลุ่มให้การสนับสนุนงบประมาณแก่กลุ่มผู้เห็นต่าง เพื่อสร้างความขัดแย้งและไม่สงบในพื้นที่
นอกจากนี้สื่อมวลชนมาเลเซีย ได้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผ่านมา เกี่ยวกับอาวุธที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงนำมาใช้ในการก่อเหตุว่ามาจากใหน หรือมีกลุ่ม/องค์กรใดเป็นผู้จัดหาหรือให้การสนับสนุนหรือไม่ และปิดท้ายด้วยการสัมภาษณ์ถึงประเด็น ข่าวการปิดตัวของ USAID จะส่งผลกระทบต่อการแก้ไขปัญหาความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ อย่างไร
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชน ระบุว่า สำหรับปัญหาเรื่องยาเสพติดได้มีการแลกเปลี่บนข้อมูลในการแก้ไขปัญหายาเสพติด ทั้งเรื่องของการสกัดกั้น จับกุม ปราบปรามในทุกรูปแบบ โดยไทยไม่ได้เป็นแหล่งผลิตแต่เป็นประเทศทางผ่านในการขนย้ายการค้ายาเสพติดข้ามแดน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการเฝ้าระวังและมีความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศด้วยดีมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับประเด็นประเทศไทย กับประเทศมาเลเซียเกี่ยวกับความร่วมมือการข้ามแดน มองว่าทั้งสองประเทศมีแค่แม่น้ำกั้นระหว่างกันและพี่น้องทั้งสองประเทศไปมาหาสู่กันมาอย่างยาวนาน โดยใช้เส้นทางธรรมชาติในการข้ามแดน ที่ผ่านมามีการผ่อนปรนให้ใช้เส้นทางธรรมชาติ แต่ด้วยสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทำให้ต้องเข้มงวดเนื่องด้วยเหตุความรุนเเรง และเพื่อป้องกันการหลบหนีของผู้ก่อเหตุหนีไปยังประเทศมาเลเซีย มองว่าการข้ามแดนโดยใช้เส้นทางที่ถูกกฎหมายย่อมดีกว่าเพราะจะช่วยให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น แม้ว่าการใช้เส้นทางข้ามแดนที่ถูกกฏหมายจะส่งผลกระทบต่อประชาชน หรือนักเรียนที่เดินทางไปกลับ แต่การข้ามแดนที่ถูกกฏหมายจะช่วยแก้ปัญหาได้ในหลายๆด้าน เช่นการลักลอบนำเข้าสิ่งผิดกฎหมาย การหลบหนีเข้าเมืองแบบผิดกฏหมาย เรื่องด่านแน่นอนว่าอาจจะส่งผลกระทบ ด้านเศรษฐกิจ และวีถีชีวิต แต่หากสามารถแก้ปัญหาเรื่องสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้ ทุกอย่างจะดีขึ้น ทั้งนี้ประชาชนเองต้องมีการปรับตัวจากความเคยชิน ให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน
สำหรับประเด็นเรื่องเหตุการณ์การบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ของ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา อาวุธปืนและสิ่งของต่างๆที่ถูกพบเจอในที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบเป็นอาวุธปืนที่ได้มาจากการปล้นในหน่วยทหารรวมถึงปล้นจากบุคคลที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ และถูกนำมาใช้ในการก่อเหตุในพื้นที่ โดยส่วนใหญ่และคาดว่าบางส่วนได้จากการจัดหาของผู้ก่อเหตุ และจากการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงเหล่านี้ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความพยายามสร้างสถานการณ์โดยหวังให้องค์กรระหว่างประเทศ เข้ามาแทรกแซง โดยใช้ประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งความจริงแล้วปัญหาความรุนแรงในพื้นที่เป็นปัญหาเรื่องของความเชื่อ ความเข้าใจผิดของคนในประเทศ ไม่ใช่ความรุนแรงหรือการใช้อาวุธทำร้ายประชาชนอย่างที่กลุ่มผู้ก่อเหตุพยายามบิดเบือน ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นการเข้ามาขององค์กรต่าง ๆ ด้วยความหวังดีต่อเสรีภาพประชาชนหรือจากข้อมูลที่ไม่เป็นจริงแล้วนั้น จะส่งผลทำให้การแก้ปัญหาเกิดความซับซ้อนยิ่งขึ้น ส่วนประเด็นเรื่อง กรณี USAID ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีนโยบายตัดเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลของผู้อพยพในประเทศต่างๆ รวมถึงประเทศไทยนั้น มองว่าหากมีความจำเป็นจะต้องมีการพูดคุยหารือ และให้ความช่วยเหลือและแก้ปัญหาต่อไป
นอกจากนี้สิ่งที่คาดหวังอยากได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลมาเลเซีย แน่นอนว่า ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันมาอย่างยาวนานในหลายเรื่อง มองว่าหาก รัฐบาลมาเลเซียให้ความร่วมมือในเรื่องการหลบหนีไปยังประเทศมาเลเซียของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง น่าจะเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่งสำหรับประเทศไทย ด้วยเพราะบุคคลที่หลบหนีไปอยู่ฝั่งประเทศมาเลเซียนั้น คือบุคคลที่ก่อเหตุ กระทำผิดกฏหมาย ซึ่งได้หลบหนีไปฝั่งมาเลเซียแต่ไปบิดเบือนว่าถูกรังแกโดยเจ้าหน้าที่รัฐของไทย ประเด็นนี้อยากให้ทางรัฐบาลมาเลเซียให้ความร่วมมือ เสมือนการให้ความร่วมมือในเรื่องอื่นๆ เฉกเช่น เรื่องเศรษฐกิจ หากได้รับความร่วมมือในเรื่องนี้อย่างจริงจัง เชื่อว่าปัญหาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ของไทยจะดีขึ้นได้