วันนี้ 26 กันยายน 2567 ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดในพื้นที่อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดขณะเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการกองร้อยทหารพรานที่ 4805 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 จัดกำลังพล จำนวน 8 นาย เดินทางด้วยรถยนต์กระบะเพื่อขนไม้ยางนำมาปรับปรุงฐานปฏิบัติการของหน่วย และในระหว่างเดินทางขากลับมาถึงบริเวณสะพานบ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 1 ตำบลตันหยงลิมอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส คนร้ายได้จุดชนวนระเบิดขึ้น แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 8 นาย รถยนต์กระบะได้รับความเสียหาย ปัจจุบันได้นำตัวผู้บาดเจ็บส่งเข้ารับการรักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ประกอบด้วย 1.จ่าสิบเอก ทิฆัมพร ฉลาดเเฉลม มีอาการหูอื้อ มีบาดแผล บริเวณลำคอ 2.สิบเอก อภิวัฒน์ ประวัติ มีอาการหูอื้อข้างซ้าย มีอาการเจ็บหน้าอกข้างซ้าย มีบาดแผลบริเวณคางด้านซ้าย 3. อาสาสมัครทหารพราน ศราวุฒิ จามจุรี มีอาการหูอื้อข้างขวา 4. อาสาสมัครทหารพราน สว่าง คัดชู มีอาการหูอื้อข้างซ้าย มีแผลสะเก็ดระเบิดบริเวณขมับข้างซ้าย และใบหูข้างซ้าย ต้นแขนซ้าย มีอาการแน่นหน้าอก 5. อาสาสมัครทหารพราน ธีระยุทธ์ สิงหพันธ์ มีอาการหูอื้อข้างขวา มีบาดแผลสะเก็ดระเบิดบริเวณหลังและแขนข้างขวา และบริเวณใบหน้าข้างขวา อาสาสมัครทหารพราน ภูเมศร์ ทอบุตร มีอาการปวดหูข้างซ้าย มีอาการแน่นหน้าอก ไม่มีบาดแผลตามตัว ปวดเข่าซ้าย 7. อาสาสมัครทหารพราน สุมนต์ สมเจตนา มีอาการหูอื้อ ข้างขวา เจ็บบริเวณท้ายทอย และ 8. อาสาสมัครทหารพราน เทพนิมิตร กลิ่นบุญเเก้ว มีแผลสะเก็ดระเบิดโดนบริเวณคาง 2 แผล บริเวณคอ 1 แผลและหน้าท้องข้างซ้าย 1 แผล มีแผล แขนข้างขวา 2 แผล 1 ปัจจุบันได้ส่งต่อการรักษาไปยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เยี่ยมให้กำลังใจสอบถามอาการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งนำความห่วงใยจากผู้บังคับบัญชามายังกำลังพลเจ้าหน้าที่ และครอบครัว โดยได้เน้นย้ำเรื่องสวัสดิการ ด้านการรักษาพยาบาลอย่างดีที่สุด ส่วนการบังคับใช้กฎหมายนั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเร่งสืบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป และได้เน้นย้ำกำชับไปยังเจ้าหน้าที่ทุกนายถึงการปฏิบัติงานให้เพิ่มความระมัดระวัง เพื่อลดการสูญเสียของกำลังพล และให้มีการปรับเปลี่ยนแผนการรักษาความปลอดภัยรวมถึงแผนการเดินทางในการปฏิบัติภารกิจทุกครั้งเพื่อป้องกันการลักลอบการก่อเหตุ
