
ภาพความหวาดกลัวของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ บ้านฆอเลาะทูวอ ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 20 เมษายน 2568 เวลา 19.30 น. เกิดเหตุความรุนแรงในพื้นที่ คนร้ายไม่ทราบชื่อและจำนวน ได้ใช้ระเบิดและอาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด กราดยิงเข้าใส่บ้านเรือนของพี่น้องประชาชน ขณะนั่งรับประทานอาหารและพูดคุยกัน ที่บ้านเลขที่ 229/11 หมู่ที่ 7 บ้านฆอเลาะทูวอ ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย

วันที่ 21 เมษายน 2568 เวลา 13.30 น. ที่บ้านเลขที่ 229/11 หมู่ที่ 7 บ้านฆอเลาะทูวอ ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุ เพื่อติดตามสถานการณ์และรับฟังข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมถึงสร้างมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนถึงมาตรการด้านความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน โดยมี โดยมี พลตรี ณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส, ผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ ,หัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ร่วมคณะติดตาม

จากนั้นเวลา 14.00 น. แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และคณะ ได้เดินทางต่อไปยังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อเข้าเยี่ยมให้กำลังใจ พูดคุยสอบถาม พร้อมมอบกระเช้าเยี่ยมป่วยและเงินบำรุงขวัญแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความรุนแรงดังกล่าว เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย

1. ดาบตำรวจ อนุชา ศรีสุวรรณ อายุ 45 ปี (ถูกยิงบริเวณหลังและแขน อาการพ้นขีดอันตราย)
2. นายวินัย โฉมอำไพ อายุ 44 ปี (ถูกยิงบริเวณแขน อาการปลอดภัย)
3. นายธวัชชัย ทิพรัตน์ อายุ 43 ปี (ถูกยิงเฉี่ยวหลังคอ อาการปลอดภัย)
4. นายประกิต คงประเสริฐ อายุ 39 ปี (ถูกยิงบริเวณสะโพก อาการปลอดภัย)
5. นายประดิษฐ์ โพสุทธิ์ อายุ 56 ปี (ถูกยิงบริเวณเข่าซ้าย,ข้อเท้าขวา)
6. นายวิรัช จันทร์ทอง อายุ 40 ปี (ถูกยิงถากคิ้วซ้าย อาการปลอดภัย ได้รับการรักษา และกลับพักฟื้นต่อที่บ้านได้)
7. นายสุรชัย สินนุสน อายุ 49 ปี (สะเก็ดกระสุนฝังแผ่นหลังซ้าย ได้รับการผ่าตัดออก และกลับบ้านพักฟื้นต่อที่บ้าน)
ด้านภรรยาของ ดาบตำรวจ อนุชา ศรีสุวรรณ์ หนึ่งในผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้เปิดเผยว่า “เมื่อทราบข่าวว่าสามีของตนได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายกราดยิง ตนตกใจและแอบกลัวว่าสามีจะเกิดอันตราย ตนและลูกจึงได้รีบเดินทางมายังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อติดตามอาการของสามี และเมื่อทราบว่าอาการของสามีได้พ้นขีดอันตรายก็รู้สึกโล่งใจ พร้อมทั้งได้แสดงความหวังว่าเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ชายแดนใต้จะยุติลงเสียที โดยอยากให้ทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน พูดคุยปรองดองกัน หยุดความรุนแรง เพราะแม้ว่าเราจะมีวิถีชีวิตหรือความเชื่อที่ต่างกัน แต่เราสามารถอยู่ร่วมกันได้ เพราะเราก็คือคนไทยด้วยกัน อยากให้รักกัน เหมือนที่เคยเป็นมาในอดีต”
อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งความรุนแรงที่สร้างความหวาดกลัวและส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้าน แม่ทัพภาคที่ 4 จึงได้กำชับและเน้นย้ำให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยให้เข้มงวดและรัดกุมยิ่งขึ้น พร้อมบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด พร้อมทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ร่วมเป็นหูเป็นตาให้กับเจ้าหน้าที่ หากพบเบาะแสหรือบุคคลต้องสงสัย สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลขโทรศัพท์ 061-1732999 หรือ สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า โทร. 1341 รวมถึงหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง