วันนี้ (14 ธันวาคม 2567) เวลาประมาณ 12.30 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ได้รับแจ้งข้อมูลจากพี่น้องประชาชน ทำให้สามารถบังคับใช้กฎหมายต่อนายมูฮำมัด มาเซ อายุ 34 ปี ซึ่งเข้ามาพักพิงในพื้นที่ หมู่ที่ 5 ตำบลสะเอะ อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา โดยในระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวต่อนางราซือนะ สอนิ (แสดงตัวเป็นเจ้าของบ้านและเป็นภรรยาของนาย มูฮำมัด มาเซ) เพื่อขอตรวจค้นบ้านโดยมีสารวัตรกำนันตำบล และ น้องชายของนางราซือนะ สอนิ เป็นพยานในการตรวจค้น ซึ่งระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าแสดงตัวต่อเจ้าของบ้าน นายมูฮำมัด มาเซ ผู้ต้องสงสัย ได้เปิดประตูด้านข้างตัวบ้าน วิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้าน เมื่อเจ้าหน้าที่สังเกตุเห็นจึงได้วิ่งติดตามและสามารถควบคุมตัวได้ในป่าท้ายหมู่บ้าน ห่างจากตัวบ้านประมาณ 350 เมตร เจ้าหน้าที่จึงทำการควบคุมตัว(ชั่วคราว) และดำเนินการขอตรวจค้นบ้านนางราซือนะ สอนิ ซึ่งเป็นบ้านที่ผู้ต้องสงสัยพักอาศัยอยู่ โดย นายมูฮำมัด มาเซ คาดว่าเชื่อมโยงกับเหตุการณ์หลายคดี ดังนี้
1. เหตุลอบวางระเบิดบ้านพักข้าราชการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ตำบลบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567
2. เหตุยิงก่อกวน ใส่ฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลบางปู พื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2567
3. เหตุระเบิดกูโบร์างฐานปฏิบัติการ ชุดคุ้มครองตำบลบางปู พื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2567
4. เหตุวางวัตถุต้องสงสัย พื้นที่ หมู่ที่ 1 ตำบลบางปู อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้ต้องสงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งการปฏิบัติงานด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม และยึดหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งได้ดำเนินกรรมวิธีทางกฎหมายต่อผู้ต้องสงสัย โดยนำตัวไปตรวจร่างกาย ณ โรงพยาบาลกรงปินัง และลงบันทึกประจำวัน ณ สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง จากนั้นได้นำตัวส่งไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ