วันนี้ (2 เม.ย.67) เวลา 11.00 น. หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดนราธิวาสเข้าบังคับใช้กฎหมาย เพื่อตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย จากเหตุปล้นรถยนต์กระบะของบริษัทหาดทิพย์ พื้นที่ อำเภอจะแนะ ซึ่งต่อมาได้นำไปก่อเหตุปล้นทรัพย์ร้านอัครวัสดุภัณฑ์ พื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมาจากการปฏิบัติสามารถควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยได้จำนวน 2 คน รายละเอียดดังนี้
คนที่ 1 นายมูฮัมหมัดไซฟู อูมา ที่อยู่ 33/1 หมู่ที่ 1 ตำบลบองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
คนที่ 2 นายมูฮัมมัดซอลาฮูดิง ทาห่า ที่อยู่ 53 หมู่ที่ 8 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส
จากคำให้การและหลักฐานเชื่อมโยงจึงนำมาซึ่งการเข้าบังคับใช้กฎหมายในวันนี้ สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัยให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปยังศูนย์ซักถาม ฯ เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเห็นเบาะแสการกระทำผิดหรือบุคคลที่มีพฤติกรรมต้องสงสัย สามารถโทรเข้ามาแจ้งได้ที่หน่วยงานความมั่นคง หรือหมายเลขสายด่วน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือสายตรง แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061 – 1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอเรียนให้ทราบว่าการให้ที่พักพิงหรือหลบซ่อนตัวแก่ผู้กระทำผิด เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ