วันอาทิตย์, 29 ธันวาคม 2567

อบอุ่น ชื่นมื่น และภาคภูมิ กองพลทหารราบที่ 15 จัดกิจกรรม Open house เปิดบ้าน หน่วยฝึกทหารใหม่ ผลัดที่ 2 รุ่นปี 2567 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี

 ตลอดระยะเวลาเกือบ 2 เดือน กับภารกิจการฝึกเปลี่ยนพลเรือนสู่วิถีพลทหารอย่างภาคภูมิของของเหล่าทหารใหม่ในกองทัพบก รุ่นปี 2567 ผลัดที่ 2 ซึ่งได้ดำเนินไปด้วยความมุ่งมั่นและขันแข็ง โดย กองพลทหารราบที่ 15 จังหวัดปัตตานี จัดกิจกรรมเปิดบ้าน Open House หน่วยฝึกทหารใหม่ ฉายภาพการเปลี่ยนแปลงน้องคนเล็กกองทัพบก พร้อมต้อนรับครอบครัวของทหารใหม่ ด้วยบรรยากาศแห่งความอบอุ่น คลายความคิดถึง และเชื่อมสายใยความสัมพันธ์ระหว่างทหารใหม่และครอบครัวกับกองทัพอย่างใกล้ชิด

โดยในวันนี้ (27 ธันวาคม 2565) เวลา 09.30 น. ณ ลานพื้นแข็งศาลาสมเด็จพระสุริโยทัย กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เป็นประธานเปิดกิจกรรม Open house ของหน่วยฝึกทหารใหม่ รุ่นปี 2567 ผลัดที่ 2 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยกองพลทหารราบที่ 15 จัดขึ้นเพื่อเปิดพื้นที่ให้ครอบครัวของทหารใหม่ ได้เข้าเยี่ยมชมหน่วยทหาร สร้างสายใยสัมพันธ์ เชื่อมความรู้สึกดี ๆ ระหว่างหน่วยกับทหารใหม่และครอบครัว รวมไปถึงมอบประกาศนียบัตรให้กับทหารใหม่ที่มีผลการทดสอบร่างกายและการยิงปืนด้วยกระสุนจริงดีเยี่ยม พร้อมรับชมการแสดงต่าง ๆ จากเหล่าทหารใหม่ โดยมี คณะผู้บังคับบัญชาจากหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15, ทหารใหม่จากหน่วยฝึกทหารใหม่ หน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จำนวน 4 หน่วยฝึก ประกอบด้วย หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 1, หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 2, หน่วยฝึกทหารใหม่กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 และหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารช่างที่ 15 กองพลทหารราบที่ 15 ตลอดจนครอบครัวทหารใหม่ ร่วมกิจกรรม

โอกาสนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 กล่าวว่า “ในนามของกองพลทหารราบที่ 15 ขอต้อนรับ และขอบคุณญาติน้อง ๆ ทหารใหม่ทุกท่าน ที่ได้เสียสละเวลาอันมีค่าของทุกคน เดินทางมาร่วมกิจกรรมเปิดบ้านทหารใหม่ (Open House) รุ่นปี 2567 ผลัดที่ 2 ณ กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย โดยกิจกรรมนี้ได้มุ่งหมายเพื่อร่วมแสดงความยินดีกับทหารใหม่ในโอกาสสำเร็จการฝึก โดยมีครอบครัวร่วมเป็นสักขีพยานแห่งความภาคภูมิใจและที่สำคัญไปกว่านั้น คือ อยากให้ญาติของทหารใหม่ได้เห็นพัฒนาการของบุตรหลาน จากชีวิตการเป็นวัยรุ่น เข้ามาสู่ค่ายทหาร อีกทั้งให้ทุกคนได้เห็นถึงความเป็นอยู่ของน้อง ๆ ทหารใหม่ ความสมบูรณ์แข็งแรงทางด้านร่างกายและจิตใจ ความมีระเบียบวินัย โดยการฝึกสอนของชุดครูฝึก ที่มีประสบการณ์ในด้านการฝึก การปฏิบัติงานในที่ตั้งปกติ และการปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ มาถ่ายทอดวิชาความรู้ต่าง ๆ ให้กับน้อง ๆ ทหารใหม่เป็นอย่างดี และขอให้ครอบครัวคลายความกังวล เรื่องการใช้ชีวิตของ น้อง ๆ ทหารใหม่ที่เข้ามารับราชการในหน่วยขึ้นตรง กองพลทหารราบที่ 15 ผมขอรับรองและยืนยันกับผู้ปกครอง และญาติของน้อง ๆ ทหารใหม่ ไว้ ณ ที่นี้ว่า ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น ตั้งแต่ท่านผู้บัญชาการทหารบก, ท่านเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก, ท่านแม่ทัพภาคที่ 4 และตัวกระผมเอง ตลอดจนกำลังพลทุกนายของกองพลทหารราบที่ 15 ต่างมอบความรัก ความห่วงใย ความใส่ใจ และความเมตตาให้กับน้อง ๆ ทหารใหม่ เปรียบเสมือนเป็นน้องคนเล็กของกองทัพบก”

ด้าน นางวิจิตรา อินจักรแก้ว หนึ่งในผู้ปกครองของน้องทหารใหม่ ที่ได้เดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ จากจังหวัดนราธิวาส เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมเปิดบ้านทหารใหม่ (Open House) รุ่นปี 2567 ผลัดที่ 2 ณ กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย เปิดเผยความรู้สึกว่า “กิจกรรมที่เกิดขึ้นในวันนี้ ถือเป็นกิจกรรมที่ดีมาก ๆ ที่ทางหน่วยทหารได้เปิดพื้นที่ เปิดโอกาสให้ผู้ปกครองและครอบครัว ได้มาเห็นภาพการฝึกของน้องทหารใหม่ รวมไปถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ รู้สึกภูมิใจในตัวลูก และรู้สึกดีที่ลูกไม่มีความเครียดหรือกังวลใด ๆ สามารถปรับตัวเข้ากับเพื่อนได้ทุกคน และที่สำคัญ คือครูฝึกทหารใหม่ได้ดูแลน้อง ๆ ดีมาก สำหรับการเปลี่ยนของลูกชายนั้น คือ น้องมีสัมมาคารวะมากขึ้น และน้องมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ซึ่งในช่วงแรก ตัวแม่เองก็มีความกังวลว่าลูกจะปรับตัวไม่ได้ แต่พอมาเห็นในวันนี้รู้ภูมิใจมากที่ลูกสามารถทำได้ ส่วนหลังจากนี้ เมื่อน้องปลดประจำการก็มีความหวังอยากให้น้องสอบเข้าศึกษาต่อในชั้นนักเรียนนายสิบทหารบก เพื่อที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป”

 ส่วน พลทหาร บุรินทร์ บุญรอด จากหนุ่มน้อยพลเรือนที่ใช้ชีวิตแสนธรรมดา ตัดสินใจลุกขึ้นอาสาสมัครเป็นรั้วของชาติภายใต้ครอบครัวของกองทัพบก ได้เล่าว่า “วันนี้ตนรู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ที่จะได้กลับบ้าน ซึ่งตลอดระยะเวลา 2 เดือนที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่มีครบทุกอารมณ์ ไม่ว่าจะเหนื่อย ท้อ คิดถึง ดีใจ ภูมิใจ ซึ่งตลอดการฝึกเป็นห้วงเวลาแห่งการพิสูจน์ความอดทนของตนเองและเพื่อน ๆ ทหารใหม่ทุกคน และในวันนี้ทุกคนสามารถก้าวผ่านกันมาได้จบหลักสูตรการฝึกอย่างภาคภูมิ ส่วนการตัดสินสมัครเข้ามารับใช้ชาตินั้น ตนอยากจะพิสูจน์ตัวเอง เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่ดีขึ้น จึงตัดสินใจเข้ามารับใช้ชาติ และเมื่อปลดประจำการมีโอกาสก็จะสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบกต่อไป”