วันเสาร์, 28 ธันวาคม 2567

สร้างความเข้าใจกรณี นาย ฮัมดี โตะมะ ผู้ต้องสงสัย กระชากรถเจ้าหน้าที่และหลบหนี ล่าสุดเข้ามอบตัว พร้อมขอโทษและเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากกรณีนาย ฮัมดี โตะมะ บุคคลต้องสงสัยจากเหตุความมั่นคงในพื้นที่ จชต. กระชากพวงมาลัยรถเจ้าหน้าที่ เพื่อหลบหนีขณะเจ้าหน้าที่กำลังนำตัว นาย ฮัมดีฯ จาก สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปส่งที่ ศปก.ตร.สน. อ.เมือง จ.ยะลา ทำให้รถเกิดอุบัติเหตุส่งผลให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บสาหัส 3 นาย ต่อมา นาย ฮัมดีฯ ได้เข้าแสดงตัวกับเจ้าหน้าที่ อส.ชคต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 67 และได้มีสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งคาดว่าเป็นแนวร่วมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงกล่าวโจมตีบิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในด้านต่างๆ โดยใช้ข้อความอันเป็นเท็จ ซึ่งก่อให้เกิดความเข้าใจผิด และส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชน

ซึ่งเมื่อวันที่ 25 ธ.ค.67 เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นาย ฮัมดีฯ ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี และนำกลับมาควบคุมตัวตาม พรก.ฉุกเฉิน เพื่อเข้าสู่กระบวนการกรรมวิธีซักถามขยายผลเกี่ยวกับการกระทำความผิดทั้ง 7 เหตุการณ์ ดังกล่าวที่ ศปก.ตร.สน. อ.เมือง จ.ยะลา โดยใช้เส้นทางหมายเลข 418 เมื่อรถมาถึงบริเวณพื้นที่ ต.คอลอตันหยัง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นาย ฮัมดีฯ ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางเบาะหลัง ได้กระโจนไปดึงพวงมาลัยรถ ทำให้รถยนต์ประสบอุบัติเหตุชนราวสะพานข้างทาง และนาย ฮัมดีฯอาศัยจังหวะเจ้าหน้าที่บาดเจ็บหลบหนีไปได้ ส่วน จนท.ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย และเสียชีวิต 1 นาย ประกอบด้วย

  1. ร.ท.ธงภักดิ์ ศุกรวัชรินทร์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณสะโพก ปัจจุบันรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี
  2. ส.ท.ชวลิต กิตติพันธ์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะ ไม่แตก ปัจจุบันรักษาตัวที่ รพ.ปัตตานี
  3. อส.ทพ.ณัฐวุฒิ อุ่นหล้า ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายและมีอาการแขนหัก รักษาตัวขั้นต้นที่ รพ.ปัตตานี และนำส่ง รพ.สงขลานครินทร์
  4. อส.ทพ.ไพโรจน์ ปราบปราม ได้รับบาดเจ็บบริเวณคอและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ล่าสุด วันที่ 26 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 1800 นาย ฮัมดีฯ ได้เข้าไปแสดงตัวที่ฐานปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลคอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี จากการตรวจสอบร่างกายเบื้องต้นพบว่ามีบาดแผลบริเวณแขนขวา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น รวมทั้งจัดหาอาหารและน้ำดื่มให้เป็นการด่วนเนื่องจากนาย ฮัมดีฯ อยู่ในอาการบาดเจ็บ อ่อนเพลีย และหิวโซ พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวของเจ้าหน้าที่นับได้ว่า เป็นการปฏิบัติตามหลักกฎหมาย หลักมนุษยธรรม และหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด โดยไม่มีการแบ่งแยกว่าบุคคลดังกล่าวจะมีพฤติกรรมเช่นใดมาก่อน แต่เมื่อตรวจพบว่าอยู่ในสภาพบาดเจ็บจึงต้องให้การช่วยเหลือให้พ้นขีดอันตรายเป็นอันดับแรก รวมทั้งการที่ นายฮัมดีฯ เลือกที่จะเข้าไปแสดงตัวต่อ เจ้าหน้าที่ อส.ชคต. นั้น ย่อมแสดงว่า นายฮัมดีฯ มีความเชื่อมั่นในตัวเจ้าหน้าที่ว่าจะไม่ทำร้ายและให้การคุ้มครองตนเองได้อย่างแน่นอน นับเป็นเครื่องแสดงให้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ สามารถเป็นที่พึ่ง และเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ในทุกโอกาส

ทั่งนี้ จากกรณีดังกล่าว ได้มีสื่อสังคมออนไลน์พยายามกล่าวหาชี้นำสังคม บิดเบือนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าไม่มีความโปร่งใส เจ้าหน้าอยู่ในอาการมึนเมา และพยายามขู่ฆ่า นายฮัมดีฯ ตลอดเวลา รวมทั้งในระหว่างการหลบหนี นายฮัมดีฯ ได้แย่งชิงอาวุธของเจ้าหน้าที่ไปด้วย โดยมีเจ้าหน้าที่ยิงปืนใส่ จึงจำเป็นต้องหนี โดยคำกล่าวอ้างดังกล่าว เป็นคำกล่าวที่เลื่อนลอย ไม่มีหลักฐานและมูลความจริงแต่อย่างใด อีกทั้งขั้นตอนการปฏิบัติต่างๆ ของเจ้าหน้าที่เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างโปร่งใสชัดเจน รวมทั้งในวันดังกล่าว ไม่มีอาวุธของเจ้าหน้าที่สูญหายและไม่ได้ทำการยิงปืนออกไปแต่อย่างใด อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกนายได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแรงกระแทกของรถยนต์และไม่ได้อยู่ในภาวะเตรียมตัว ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ส่งผลให้ให้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

และภายหลังการเข้ามอบตัวต่อเจ้าหน้าที่นายฮัมดี ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่าที่กระทำไปเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และรู้สึกเสียใจและขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอให้พี่น้องประชาชนได้ร่วมกันตรวจสอบข้อมูลที่รับทราบจากสื่อในช่องทางต่างๆ อย่างละเอียดถี่ถ้วนเพื่อสร้างการรับรู้ที่ถูกต้อง