จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 เวลาประมาณ 01.40 น. ได้มีคนร้ายจำนวน 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์และได้ใช้อาวุธปืนประกบยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ขณะขี่รถจักรยานยนต์บนถนนทรายทอง 5 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่ ณ ด่านจุดตรวจบ้านน้ำตก ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ ตรวจพบรถจักรยายนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า เวฟ 110 ไอ ทะเบียน 1 กก 4447 ยะลา ล้มลงอยู่บริเวณกลางถนน ส่วนผู้ถูกยิง ทราบชื่อ สิบตำรวจตรี ธนกฤต ฤกษ์ดี อายุ 23 ปี ตำแหน่ง ผู้บังคับหมู่ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ สถานีตำรวจภูธรสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ต่อมาได้เสียชีวิตระหว่างนำตัวส่งโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก จากนั้นเจ้าหน้าที่เก็บรวบรวมวัตถุพยานและหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งสามารถขยายผลนำไปสู่การจับกุมตัวคนร้ายได้ จึงส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินกรรมวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
กระทั่งเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 ศาลจังหวัดนราธิวาส พิพากษา “จำคุกตลอดชีวิต” นายฮาฟิส (สงวนนามสกุล) จำเลย ความผิดฐาน ก่อการร้าย ซ่องโจร ความผิดต่อชีวิต ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากโจทก์มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอ อีกทั้งจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นดำเนินกรรมวิธีซักถาม ว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ ลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิดที่โจทก์ฟ้อง เมื่อรวมความผิดทุกกระทงแล้วจำเลยจึงต้องรับโทษบทหนักสุดคือ ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายให้ลงโทษประหารชีวิต คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ ต่อการพิจารณาลดโทษกระทงละกึ่งหนึ่ง คงเหลือจำคุกตลอดชีวิต (อ.914/66)
และต่อมาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาสอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษา แก้ “จำคุกตลอดชีวิต” นายฮาฟิส (สงวนนามสกุล) จำเลย ความผิดฐาน ก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้าย ซ่องโจร ความผิดต่อชีวิต ทำให้เสียทรัพย์ พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากโจทก์มีพยานหลักฐานที่มีน้ำหนักพอ อีกทั้งจำเลยให้การรับสารภาพในชั้นดำเนินกรรมวิธีซักถามว่าเป็นผู้ร่วมก่อเหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจในคดีนี้ ลงโทษจำเลยทุกกระทงความผิดที่โจทก์ฟ้อง เมื่อรวมความผิดทุกกระทงแล้วจำเลยจึงต้องรับโทษบทหนักสุดคือ ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือ จำคุก 25 ปี 3 เดือน และ ปรับ 500 บาท (อ.914/66)