วันพฤหัสบดี, 27 กุมภาพันธ์ 2568

ศาลฎีกายืนโทษจำคุก 3 ปี 4 เดือน สามผู้ต้องหาเกี่ยวข้อง คดีลอบยิงผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านยะรัง ปี 57 พร้อมทิ้งใบปลิวปลุกระดม

จากกรณีเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2557 เวลา 17.00 น. เกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิง นายชาญวิทย์ กาซอ ตำแหน่งผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน อายุ 48 ปี ขณะออกกำลังกายบนถนนภายในหมู่บ้าน พื้นที่ หมู่ 1 ตำบลวัด อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี ระหว่างนั้นได้มีกลุ่มคนร้าย จำนวน 4 คน ใช้รถจักรยานยนต์ 2 คัน เป็นยานพาหนะ เข้ามาในบริเวณดังกล่าว และได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ นายชาญวิทย์ฯ จำนวนหลายนัด กระสุนถูกเข้าที่บริเวณลำตัว จำนวน 3 นัด ทำให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้ทิ้งใบปลิวไว้ในที่เกิดเหตุ ก่อนจะหลบหนีไป

ภายหลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่และปิดกั้นเส้นทาง รวบรวมวัตถุพยานและหลักฐานต่างๆ ในที่เกิดเหตุ จนกระทั่งขยายผลนำไปสู่การติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายได้ในที่สุด และเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ศาลจังหวัดปัตตานี (ชั้นต้น) พิพากษา จำคุก 5 ปี นายอาฮามะ ฮะซา จำเลยที่ 1, นายเซ็ง มะแซ จำเลยที่ 2 และ นายอาหะมะ สาอุ จำเลยที่ 3 ความผิดฐาน อั้งยี่ ซ่องโจร ศาลเห็นว่าจำเลยทั้ง 3 ให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาคดี จึงลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือ จำคุก 3 ปี 4 เดือน (ขังจำเลยทั้ง 3 ระหว่างอุทธรณ์ อ.4/64)ต่อมาเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2566 ศาลจังหวัดปัตตานี อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น จำคุก 3 ปี 4 เดือน นายอาฮามะ ฮะซา จำเลยที่ 1, นายเซ็ง มะแซ จำเลยที่ 2 และ นายอาหะมะ สาอุ จำเลยที่ 3 ความผิดฐาน อั้งยี่ ซ่องโจร

เนื่องจากคำให้การของจำเลยทั้ง 3 เป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่เมื่อนำมาประกอบกับผลการตรวจพิสูจน์ใบปลิวของกลางที่มีรอยลายนิ้วมือ และฝ่ามือแฝงของจำเลยที่ 1, 2 ส่วนจำเลยที่ 3 ให้การโดยสมัครใจ จึงสามารถสนับสนุนให้พยานบอกเล่าดังกล่าวมีน้ำหนักมากยิ่งขึ้นสามารถรับฟังพยานหลักฐานได้ (ขังจำเลยทั้ง 3 ระหว่างฎีกา อ.4/64) ล่าสุดวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 ศาลจังหวัดปัตตานี อ่านคำพิพากษาศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 9 “จำคุก 3 ปี 4 เดือน” นายอาฮามะ ฮะซา จำเลยที่ 1, นายเซ็ง มะแซ จำเลยที่ 2 และ นายอาหะมะ สาอุ จำเลยที่ 3 ความผิดฐาน อั้งยี่ ซ่องโจร เนื่องจากคำให้การของจำเลยทั้ง 3 เชื่อได้ว่าจำเลยทั้ง 3 มีส่วนร่วมในการก่อเหตุ โดยรับหน้าที่ทิ้งใบปลิวของกลางในคดีนี้ ผลการตรวจสอบลายมือกับสมุดบันทึกของจำเลยตรงกันกับคำรับสารภาพของจำเลยทั้ง 3 สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ คดีถึงที่สุด (ขังจำเลยทั้ง 3 ตามคำพิพากษา อ.4/64)