จากเหตุเจ้าหน้าที่เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกลุ่มผู้ก่อเหตรุนแรง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2563 โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งข้อมูลข่าวสารจากพี่น้องประชาชนจนทราบว่า มีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาพักอาศัย ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านบือแนจือแร ตำบลกอลำ อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี เพื่อใช้เป็นฐานปฏิบัติการสำหรับเตรียมก่อเหตุรุนแรง และลอบทำร้ายเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบและบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงดังกล่าว ตรวจพบฐานปฏิบัติการ ที่พักชั่วคราวและอุปกรณ์ยังชีพหลายรายการ ซึ่งกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ยิงต่อสู้ระหว่างเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายตามขั้นตอน เป็นเวลา 3 วัน โดยเจ้าหน้าที่พยายามเจรจาให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงมอบตัว และเชิญผู้นำท้องถิ่นและผู้นำศาสนาช่วยเกลี้ยกล่อม แต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงใช้ความรุนแรง จนเกิดการต่อสู้และทำให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงถูกวิสามัญเสียชีวิต จำนวน 7 ราย เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ จำนวน 3 นาย ต่อมาเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัย และรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อเร่งหาผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายโดยเร็วที่สุด
ต่อมาเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2565 ศาลชั้นต้น พิพากษา จำคุก 10 ปี จำเลยที่ 1 นายซุลกิฟลี ดือราโอะ ความผิดฐานสนับสนุนเพื่อก่อการร้าย ซึ่งนายซุลกิฟลีฯ ให้การยอมรับว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อสิ่งของสนับสนุน ให้กับหนึ่งในกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่ถูกวิสามัญ ซึ่งสอดคล้องกับหลักฐานอื่นๆ แต่คำรับสารภาพของนายซุลกิฟลีฯ เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ศาลจึงลดโทษ 1 ใน 3 คงเหลือ “จำคุก 6 ปี 8 เดือน” ส่วนจำเลยที่ 2 และ 3 ยังไม่สามารถเชื่อได้ว่า ได้ร่วมกระทำความผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานของโจทก์จึงยังคงมีความสงสัยตามสมควร ให้ยกประโยชน์ แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยที่ 2 และ 3 พิพากษา “ยกฟ้อง”
เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 ศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น “จำคุก 6 ปี 8 เดือน” นายซุลกิฟลี ดือราโอะ จำเลยที่ 1 ความผิดฐานสนับสนุนเพื่อก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร และพิพากษา “ยกฟ้อง” จำเลยที่ 2 และ จำเลยที่ 3 เพราะพยานหลักฐานของโจทก์ยังคงมีความสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลยทั้ง 2
และเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 9 “จำคุก 6 ปี 8 เดือน” นายซุลกิฟลี ดือราโอะ จำเลยที่ 1 ความผิดฐานสนับสนุนเพื่อก่อการร้าย และช่วยเหลือผู้อื่นซึ่งเป็นผู้ต้องหาไม่ให้ถูกจับกุม ความผิดต่อเจ้าพนักงานยุติธรรม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายฯ และพิพากษา “ยกฟ้อง” จำเลยที่ 2 และ นาย จำเลยที่ โดยโจทก์ไม่ได้ยื่นอุทธรณ์/ฎีกา ต่อจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 จึงทำให้คดีของจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 3 เป็นอันสิ้นสุดตั้งแต่ศาลชั้นต้น (คดีถึงที่สุด ขัง นายซุลกิฟลี ดือราโอะ จำเลยที่ 1 ตามคำพิพากษา และปล่อยตัว จำเลยที่ 2 และ ที่ 3 (อ.624/64))