ตามที่เจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวนายอับดุลอาฟิร เซ็ง เพื่อสอบถามและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตรวจพบข้อมูลจากสื่อออนไลน์ว่านายอับดุลอาฟิรฯ ได้โพสต์ข้อมูลที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงกรณีเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมาย และเกิดเหตุยิงปะทะกับคนร้ายในพื้นที่บ้านคลองช้าง ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี โดยโพสต์ของนายอับดุลกาฟิรฯ นอกจากไม่ตรงกับความเป็นจริงแล้ว ยังมีข้อมูลที่กล่าวให้ร้ายเจ้าหน้าที่ และปลุกปั่นให้ผู้อ่านหรือผู้ติดตามเพจ เกิดความรู้สึกแตกแยก และเกลียดชังต่อเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งอาจมีพฤติกรรมเข้าข่ายการกระทำความผิดกฎหมายในฐาน “ยุยงปลุกปั่น” และ “นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์” อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่ถูกต้องและสร้างความเข้าใจที่ดีต่อกันแล้ว ได้ปล่อยตัวนายอับดุลอาฟิรฯ เมื่อ 17 กุมภาพันธ์ 2568 ตามที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น
ต่อมา ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ ได้อ่านหมายจับศาลจังหวัดปัตตานี ต่อนายอับดุลอาฟิรฯ ซึ่งต้องหาว่า “กระทำให้ปรากฏด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอื่นใดอันมิใช่เป็นการกระทำ ภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญหรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริตเพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องในหมู่ประชาชนถึงขนาดที่จะก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักร นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือโครงสร้างพื้นฐานอันเป็นประโยชน์สาธารณะของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน และ นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 (2) (3) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี และ พระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำความผิด เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 มาตรา 14 (2) (3) ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหาและสอบปากคำนายอับดุลอาฟิรฯ และจะนำตัวฝากขังต่อศาลตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ นายอับดุลกาฟิรฯ ได้รับทราบข้อกล่าวหา และให้ความร่วมมือเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างดี
