วันจันทร์, 23 ธันวาคม 2567

ศปป.5 กอ.รมน. นำคณะสื่อมวลชนส่วนกลาง ลงใต้ติดตามงานด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการขับเคลื่อนงานด้านความมั่นคง เพื่อนำสันติสุขสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

วันที่ 12 กันยายน 2567 เวลา 10.00 น. ที่กองบัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 2 ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลโท ธัชพล เปี่ยมวุฒิ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร นำคณะสื่อมวลชนส่วนกลาง ( กรุงเทพมหานคร ) ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจ ติดตาม และรับทราบการปฏิบัติงานในปัจจุบัน ในกิจกรรมสื่อมวลชนสัมพันธ์ เสริมสร้างคุณภาพชีวิต จังหวัดชายแดนภาคใต้ ครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 12 – 14 กันยายน 2567 เพื่อติดตามงานความมั่นคง การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ควบคู่กับการขับเคลื่อนการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการค้า การท่องเที่ยวตามนโยบายของรัฐบาล โดยมี พลเรือตรี โชคชัย เรืองแจ่ม เสนาธิการทัพเรือภาคที่ 2/หัวหน้าศูนย์ข้อมูลข่าวสารกองทัพเรือ พื้นที่สงขลา พร้อมคณะฯ ร่วมให้การต้อนรับ

โดย พลเรือตรี โชคชัย เรืองแจ่ม ระบุว่า กองบัญชาการกองทัพเรือภาคที่ 2 มีหน้าที่ รับผิดชอบพื้นที่ทางทะเลบริเวณอ่าวไทยตอนล่าง ตั้งแต่ทางบกบริเวณจุดรอยต่อ บ้านเหนาะ อำเภอละแม จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สงขลา ปัตตานีและนราธิวาส ดูแลป้องกันราชอาณาจักร รักษาความมั่นคง ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ตลอดจนช่วยเหลือประชาชนกรณีมีภัยพิบัติให้ทันต่อเหตุการณ์ พร้อมย้ำว่า มีความสัมพันธ์ระดับดีมากระหว่างกองทัพเรือประเทศไทย กองทัพเรือประเทศมาเลเซีย และกองทัพเรือประเทศเวียดนาม ซึ่งมีการจัดกำลังพลพร้อมเรือตรวจการณ์ลาดตระเวรร่วมกันต่อเนื่อง ส่วนงานควบคุมป้องกันปัญหาความมั่นคงตามแนวชายแดนไทย-มาเลเซีย ยังคงคุมเข้มป้องกัน หลังพบผู้ก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจใช้บางพื้นที่เป็นช่องทางหลบหนีหรือหลบซ่อนเข้าไปในเขตประเทศมาเลเซีย รวมทั้งสะกัดกั้นการขนย้ายสิ่งผิดกฎหมาย หรือสิ่งของวัตถุระเบิดเข้าในพื้นที่หวังสร้างสถานการณ์ นอกจากนี้ยังพบปัญหาแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้ามาทำงานและหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย , ปัญหาสินค้าหนีภาษี เช่น น้ำมันเถื่อน , ปัญหายาเสพติด การผ่านเข้าออกประเทศตามช่องทางต่างๆที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีทั้งที่เจตนาลักลอบเข้ามาและรู้เท่าไม่ถึงการณ์ สำหรับสถานการณ์ทางทะเลอยู่ในระดับต้องเฝ้าดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งทัพเรือภาคที่ 2 และศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 ( ศรชล.ภาค 2 ) ได้จัดเรือพร้อมอากาศยานเฝ้าตรวจพื้นที่เข้มงวด เน้นจำกัดเสรีในการปฏิบัติของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ควบคู่กับการ บูรณาการเชิงรุกร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่อย่างรัดกุม เพื่อการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลให้มีความมั่นคง ยั่งยืน ทั้งภายในและภายนอกราชอาณาจักร

โอกาสนี้ พลโท ธัชพล เปี่ยมวุฒิ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 ย้ำว่ากิจกรรมครั้งนี้มุ่งหวังให้สื่อมวลชน ได้รับทราบการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลาได้เป็นเสียงสะท้อนในการรับข้อมูลและส่งต่อข้อมูลการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญ ถือเป็นความคาดหวังของทั้งรัฐบาลและประชาชนทั้งประเทศ ที่ต้องการนำสันติสุขสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างยั่งยืน

 ด้าน คุณกิตติพันธ์ ขันติศีลชัย บรรณาธิการข่าวอาวุโสจากสำนักหนังสือพิมพ์สามัคคีสี่เหล่า เป็นผู้แทน กล่าวขอบคุณและขอเป็นกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท เสียสละ ยืนยันในฐานะสื่อมวลชน จะช่วยเป็นสื่อกลางนำเสนอข้อมูลการทำงาน เผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ในทุกภารกิจ ทุกกิจกรรมที่หน่วยงานความมั่นคง ภายใต้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรและกองทัพ พยายามปฏิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน ชุมชน ได้มีความกินดี อยู่ดี เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีให้เกิดขึ้นระหว่างหน่วยงานรัฐและประชาชน

ขณะเดียวกัน พลโท ธัชพล เปี่ยมวุฒิ ผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 5 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อม นาวาโท สามารถ หีบไสสงค์ ผู้บังคับการเรือหลวงปัตตานี นำคณะฯ ลงเรือหลวงปัตตานี เพื่อรับชมการสาธิตการตรวจการณ์เรือประมง สินค้าสัตว์น้ำต้องสงใส หลังเข้าตรวจสอบไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงสอบถามความเป็นอยู่พร้อมนำมอบยาเวชภัณฑ์สามัญประจำบ้านแก่ชาวประมงบนเรือ เพื่อใช้รักษาอาการเบื้องต้น

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร โดย กองทัพเรือ เป็นหน่วยกำลังรบหลักในพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตย และรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการให้ความช่วยเหลือพี่น้องชาวประมงไทย การปราบปรามยาเสพติด การช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล ตลอดจนการป้องกันการทำลาย และอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ป้องกันและขจัดมลพิษในทะเลบริเวณชายฝั่ง จนเป็นที่ประจักษ์แก่สาธารณชนทั่วไปว่าเป็น “กองทัพเรือเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง”