
วันนี้ (30 เมษายน 2568) เวลา 09.00 น. ที่ศาลาพินประเสริฐ ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอก สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 เป็นประธานพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล ของทหารกองประจำการ ซึ่งปลดประจำการเป็นทหารกองหนุน จากหน่วยขึ้นตรงกรมทหารราบที่ 152 ทั้งหมด 3 กองพัน คือ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 152, กองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 152 และ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 ในการนี้ หนึ่งในผู้ที่ได้รับมอบเกียรติบัตรและเกียรติคุณดีเด่น ได้กล่าวถึงความภาคภูมิใจ และจะนำความรู้จากกองทัพไปพัฒนาต่อยอดสู่การเป็นทหารอาชีพ คือ การปฏิบัติตนเป็นพลเมืองที่ดีและพร้อมช่วยเหลือประชาชนในทุกโอกาส พร้อมย้ำว่ามีใจรักและใฝ่ฝันอยากรับราชการทหาร และฝากความห่วงใยถึงรุ่นน้องทุกคนที่จะเข้ามาประจำการว่า “กองทัพจะดูแล พร้อมมอบความรู้ให้คุณเปรียบเสมือนครอบครัวเดียวกัน” ผู้บังคับบัญชาทุกระดับพร้อมส่งเสริม ต่อยอดในการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการ

โดย ผู้แทนทหารปลดกองประจำการ ได้กล่าวอำลาผู้บังคับบัญชาโดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้รับความเมตตาจากผู้บังคับบัญชาทุกท่านด้วยดี และได้รับการสั่งสอน อบรมให้เป็นผู้มีระเบียบวินัยและการสวัสดิการ เป็นอย่างดียิ่ง พวกเรารู้สึกซาบซึ้งและจะจดจำไว้ไม่รู้ลืม ประกอบกับต่างมีความรู้สึกเสียใจคือต้องจากหน่วยและผู้บังคับบัญชาที่ให้ความเมตตาเปรียบประหนึ่งพวกกระผมเป็นลูกหลานที่อยู่ในครอบครัวอันอบอุ่นและต้องจากเพื่อนฝูงพี่น้องที่เคยอยู่ร่วมกัน ควบคู่กับความรู้สึกดีใจคือจะได้กลับไปอยู่กับครอบครัวอย่างพร้อมหน้ายืนยันแม้พวกกระผมจะกลับไปสู่ภูมิลำเนาเดิม จะคอยติดตามรับฟังความเจริญของกรมทหารราบที่ 152 หากมีเรื่องอันใดไม่ดีงามกระผมจะรายงานให้ทราบและจะยึดมั่นในคำสัตย์ปฏิญาณตนที่ให้ไว้ต่อธงชัยเฉลิมพลอย่างมิเสื่อมคลาย อีกทั้งจะเป็นทหารกองหนุนที่ดีของกองทัพบกตลอดไป
โอกาสนี้ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 ได้กล่าวขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ได้รับมอบใบประกาศเกียรติคุณ ซึ่งเป็นสิ่งที่บ่งบอกถึงการอุทิศตนทำงานให้กับหน่วยเป็นไปด้วยความเรียบร้อยในห้วงรับราชการ พิธีในวันนี้ถือเป็นพิธีที่มีเกียรติ เพราะมีการเชิญธงชัยเฉลิมพล ซึ่งเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุดของทหารเป็นเกียรติยศของหน่วยทหาร และไม่เพียงแต่เป็นเกียรติยศของหน่วยทหารเท่านั้นหากแต่ยังเป็นเครื่องหมายแทนองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นจอมทัพที่เสมือนหนึ่งเสด็จพระราชดำเนินมาประทับเป็นหลักชัยอยู่ท่ามกลางเหล่าทหารทั้งปวง และพิธีวันนี้ถือเป็นพิธีที่สำคัญในการปลดประจำการก่อนกลับสู่ภูมิลำเนา ตลอดห้วงรับราชการเป็นทหารกองประจำการ ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของชายไทยได้สมบูรณ์แบบ และพิสูจน์ตนเองแล้วว่า มีความเป็นนักสู้ อย่างแท้จริง นับเป็นความภาคภูมิใจของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น ปัจจุบันหน่วยเราได้รับภารกิจสำคัญยิ่ง คือ การปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ อันเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ มีเกียรติ เพื่อนเราบางคน ต้องสละชีวิตเพื่อปกป้องผืนปฐพีนี้ไว้ นับเป็นวีรบุรุษของชาติอย่างแท้จริง ขอให้ท่านรำลึกถึงภาระหน้าที่ดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ตลอดจนนำความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับ ปรับใช้ในการดำรงชีวิต ส่วนตนและส่วนรวม ด้วยการประกอบอาชีพที่สุจริต เป็นคนดีของสังคม เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติ และบ้านเมืองสืบไป

