จากกรณีเหตุการณ์ คนร้ายก่อเหตุลอบวางเพลิงโรงโม่หินธนบดีศิลาในพื้นที่ หมู่ที่ 4 บ้านบาตัน ตำบลลิดล อำเภอเมือง จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2567 ที่ผ่านมา ผลตรวจวัตถุพยานที่เกิดเหตุพบลายนิ้วมือแฝงที่ถุงพลาสติกใสแบบมีซิปล็อก ตรงกันกับลายพิมพ์นิ้วมือของ นายกัสฟุลเร๊าะมาน แลหา อายุ 35 ปี ที่อยู่ 31/4 หมู่ที่ 1 ตำบลลิดล อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พฤติกรรมเป็นสมาชิกผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ เคยถูกควบคุมตัวเมื่อ 16 กุมภาพันธ์ 2554 และจากการสืบสวนพบว่า นายกัสฟุลเร๊าะมานฯ หลบหนีออกนอกพื้นที่ไปยัง อำเภอยี่งอ จังหวัดนราธิวาส จนกระทั่ง วันที่ 30 มีนาคม 2567 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่าพบเห็น นายกัสฟุลเร๊าะมานฯ เดินทางเข้ามาเคลื่อนไหวยังพื้นที่ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
ล่าสุด วันนี้ 30 มีนาคม 2567 เวลา 07.10 น. ชุดสืบสวนคดีความมั่นคงและคดีพิเศษฯ จึงได้ดำเนินการตั้งด่านตรวจ/จุดตรวจ บริเวณหน้าเรือนจำกลางจังหวัดยะลา ตรวจพบ นายกัสฟุรเลาะมานฯ ขณะขับรถยนต์ ยี่ห้อ ซูซูกิ สีขาว หมายเลขทะเบียน ขร 9839 สงขลา จากพื้นที่บ้านสะเตงไปทางบ้านท่าสาป เจ้าหน้าที่จึงขอเข้าตรวจค้นรถยนต์ดังกล่าว ณ ด่านตรวจ/จุดตรวจ และได้เชิญตัวไปพูดคุยที่กองกำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ต่อมาหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดยะลา ร่วมกับ กองกำกับการสืบสวนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดยะลา, หน่วยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 91 และหน่วยที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมาย โดยนำตัว นายกัสฟุรเลาะมานฯ เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 31/4 หมู่ที่ 1 ตำบลลิดล อำเภอเมืองยะลา เพื่อตรวจสอบค้นหาพยานหลักฐานต่อไป ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่พูดคุยและสร้างความเข้าใจแก่ครอบครัวและญาติของผู้สงสัย ให้ทราบถึงขั้นตอนการทำงานของเจ้าหน้าที่ รวมทั้งให้ปฏิบัติด้วยความโปร่งใส ยุติธรรม คำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชนให้มากที่สุด ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เชิญตัวไปยังยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 เพื่อดำเนินกรรมวิธีซักถามและขยายผลต่อไป
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามกฎหมาย ป.อาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ