เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.30 น. ที่ อาคารฟ้าขาวโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพ นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม หรือ นายกอาร์ม นายกเทศมนตรีตำบลรือเสาะ อายุ 55 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุการณ์ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงใช้อาวุธปืนสงคราม ลอบยิง ขณะนั่งประชุมภายในห้องประชุมโรงงานวิสาหกิจชุมชนแฮนด์ อิน แฮนด์รือเสาะ บ้านยาแลเบาะ หมู่ที่ 5 ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2567 โดยมีผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ กำลังพล ประชาชนในพื้นที่ร่วมในพิธี เพื่อแสดงความไว้อาลัย และให้กำลังใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ภายในงานยังมีผู้แทนจากส่วนราชการ ประชาชนในพื้นที่และเพื่อนร่วมงานส่งพวงหรีดมาแสดงความเสียใจเป็นจำนวนมาก
โอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจ พร้อมให้กำลังใจแก่ครอบครัวและญาติที่ต้องสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก พร้อมย้ำว่าการปฏิบัติหน้าที่จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิตด้วยความเสียสละ ทุ่มเท มีจิตสาธารณะ เป็นข้าราชการที่ดี มุ่งมั่นปฏิบัติงานด้วยหัวใจที่รักประชาชน ยึดมั่นในการประพฤติปฏิบัติซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน สังคม ประเทศชาติ ซึ่งเห็นประจักษ์ คือ นายกอาร์มเป็นผู้สร้างงานให้กับคนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ขอให้ครอบครัวภูมิใจในความเป็นลูกผู้ชายรับใช้ชาติอย่างกล้าหาญ และชื่อของ นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม ซึ่งจะอยู่ในใจของพวกเราตลอดไป และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนเข้าร่วมพิธีไว้อาลัย เพื่อเป็นการรำลึกถึงคุณความดีของบุคคลผู้เสียสละ มุ่งบำเพ็ญประโยชน์เพื่อส่วนรวมอย่างแท้จริงโดยกำหนดการสวดพระอภิธรรมบำเพ็ญกุศลศพของ นายวิเชษฐ์ ไทยทองนุ่ม กำหนดขึ้นระหว่าง วันที่ 9 – 13 พฤศจิกายน 2567 เวลา 17.30 – 19.00 น. ณ อาคารฟ้าขาวโรงเรียนอนุบาลรือเสาะ ตำบลรือเสาะ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน 2567 ณ วัดไพโรจน์ประชาราม (วัดปลายนา) ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยมี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานในพิธี
ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน หน่วยงานราชการรวมถึงภาคเอกชนในพื้นที่ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรมศพและพิธีพระราชทานเพลิงศพตามกำหนดการโดยพร้อมเพรียงกันเพื่อเป็นกำลังใจให้แก่ญาติครอบครัวของผู้เสียชีวิตต่อไป