วันนี้ (22 มีนาคม 2568 ) 17.30 น. ที่ มัสยิดบ้านพลีใต้ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานเปิดกิจกรรมละศีลอด (เปิดปอซอ) เนื่องในโอกาสเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 ประจำปี 2568 เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างประชาชนและหน่วยงานภาครัฐ บนพื้นฐานความหลากหลายในสังคมพหุวัฒนธรรม เสริมสร้างความมั่นคงและสังคมสันติสุข ตลอดจนปฏิบัติตนต่อกันในเดือนรอมฎอนตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม รวมถึงการเสาวนาพบปะผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ โดยมี พระวชิรสุนทร รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา,ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา, ผู้ช่วยเลขาธิการ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา, รองผู้บังคับการกองกำลังตำรวจจังหวัดสงขลา, นายอำเภอ, ผู้นำศาสนา และประชาชนร่วมกิจกรรมละศีลอดฯ
โดยก่อนร่วมกิจกรรมละศีลอดได้มีการพบปะเสวนากับผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ โดย พระวชิรสุนทร รองเจ้าคณะจังหวัดสงขลา ในหัวข้อ“การเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนะธรรม ในพื้นที่ 4 อำเภอ สงขลา”, นายศักดิ์กรียา บินแสละ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดสงขลา ในหัวข้อ “การปฎิบัติตนในห้วงเดือนรอมฎอน”, พลตำรวจเอก พสิษฐ์ ศานติปรัชญา รองผู้บังคับกองกำลังตำรวจจังหวัดสงขลา ในหัวข้อ “การอำนวยความสะดวกในการประกอบศานสนกิจ”, นายนิพนธ์ ชายใหญ่ ผู้ช่วยเลขา ศอ.บต. ในหัวข้อ “การส่งเสริมวิถีชีวิตให้สอดคล้องกับสังคมพหุวัฒนธรรม “และ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวพบปะในหัวข้อ “เดือนรอมฎอนอันประเสริฐและมาตรการการดูแลความปลอดภัยในห้วงเดือนรอมฎอน”
ซึ่งภายในกิจกรรมได้มอบอินทผาลัมอบแห้งและมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคให้แก่ผู้นำศาสนา นำไปแจกจ่ายให้พี่น้องประชาชน ก่อนที่จะร่วมกันดูอาร์และอาซาน เพื่อเปิดปอซอ ถือเป็นบรรยากาศที่ดีของการปฏิบัติศาสนกิจ ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรมที่อำเภอนาทวีแสดงออกให้เห็นเด่นชัดเสมอมา
ในโอกาสนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กล่าวพบปะและอวยพรเนื่องในเดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 ว่า เดือนรอมฎอนถือเป็นเดือนสำคัญทางศาสนาของชาวมุสลิม ตามปฏิทินของอิสลาม ในช่วงเวลาดังกล่าวมีความเชื่อตามหลักบัญญัติทางศาสนา ว่าด้วยพระองค์อัลลอฮ์ได้ทรงกำหนดให้เดือนดังกล่าว เป็นเดือนแห่งการประกอบอิบาดะห์และได้ทรงกำหนดให้ชาวมุสลิมหรือผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามต้องทำการ “ถือศีลอด”
เพื่อเป็นการควบคุมตัวเองในการรับประทานอาหารให้อยู่ในความพอดีให้ร่างกายได้รู้จักความหิวโหย เพื่อให้เข้าใจ สภาพของคนยากไร้ที่ไม่มีอาหารรับประทานโดยตลอดระยะเวลา 1 เดือน ของการถือศีลอดนั้น ก็เพื่อทำให้ชาวมุสลิม มีจิตใจที่เมตตาเข้าอกเข้าใจผู้อื่นและยังเป็นช่วงเวลาสะสมความดีด้วยการละหมาด ตะรอเวียะห์ ทำการซิกรุลลอฮ์ อ่านอัลกุรอาน และทำจิตใจให้ใสสะอาด มุ่งสู่อัลลอฮ์ อีกทั้งยังส่งเสริม ให้มีการบริจาค การให้ซากาต และการเลี้ยงละศีลอด ให้กับผู้ที่ถือศีลอด ถือเป็นความดี ที่จะได้รับผลบุญหลายเท่าในห้วงที่ผ่านมา จะมีเหตุความรุนแรง แต่อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงมุ่งมั่นที่จะรักษาพื้นที่ ให้ปลอดภัย เพื่อให้เดือนรอมฎอน ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี พี่น้องประชาชน สามารถปฏิบัติศาสนกิจได้อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น ช่วยกันกำชับลูกหลาน งด ซื้อ ประทัด ดอกไม้ไฟ เนื่องจากการเล่นจุดประทัดและดอกไม้ไฟจะก่อให้เกิดอันตราย โดยในปีที่ผ่านมา พบว่ามีเด็กได้รับบาดเจ็บจากการเล่นประทัดและดอกไม้ไฟหลายราย และเพื่อให้เดือนรอมฎอนเป็นเดือนแห่งการประกอบศาสนากิจและลุล่วงไปด้วยดี รวมถึงขอให้ทุกคนช่วยกันดูแลสอดส่องพื้นที่ของตนเองเพื่อยับยั้งเหตุที่อาจจะเกิด
