วันจันทร์, 28 เมษายน 2568

มณฑลทหารบกที่ 42 จัดพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพลของทหารกองประจำการ ดำรงไว้ซึ่งความภาคภูมิใจที่ครั้งหนึ่งได้รับใช้ประเทศชาติ ณ ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 เวลา 09.00 น. ที่มณฑลทหารบกที่ 42 ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พลตรี ปกรณ์ จันทรโชตะ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นประธานในพิธีอำลาธงชัยเฉลิมพล ของทหารกองประจำการ รุ่นปี 2566 ผลัดที่ 1 หน่วยขึ้นตรงของมณฑลทหารบกที่ 42 ซึ่งจะปลดประจำการในวันที่ 30 เมษายน 2568 ในการนี้ได้ให้โอวาท พร้อมทั้งแสดงความยินดี และขอให้น้องๆ ทหารกองประจำการ ยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ อวยพรให้ประสบความสำเร็จในสิ่งอันพึงปรารถนา โดยในพิธี มีพระสงฆ์ปะพรมน้ำพระพุทธมนต์ เพื่อเป็นศิริมงคล แก่กำลังพล ผู้แทนทหารกองประจำการที่จะปลดจากกองประจำการกล่าวอำลาผู้บังคับบัญชา และพิธีสวนสนามอำลาธงชัยเฉลิมพล และผู้บังคับบัญชา ซึ่งเป็นพิธีอันทรงเกียรติ ที่ทรงคุณค่า สร้างภาคภูมิใจแก่เหล่ากำลังพลน้องๆทหารที่จะปลดจากกองประจำการ

ทั้งนี้  พลตรี ปกรณ์ จันทรโชตะ กล่าวว่า น้องๆ พลทหารที่จะปลดจากกองประจำการ ทุกนาย ตามกฎหมายทั่วไปกำหนดให้รัฐต้องมีกำลังไว้ เพื่อพิทักษ์เอกราช และความมั่นคงของรัฐ สถาบันพระมหากษัตริย์ และผลประโยชน์ของชาติ มีหน้าที่ป้องกันประเทศ รับราชการทหาร นับว่าพวกท่านทั้งหลาย ได้มีหน้าที่สำคัญยิ่ง ซึ่งชายไทยส่วนใหญ่ ไม่มีโอกาสแห่งความภาคภูมิใจ เช่นพวกท่าน การได้รับใช้ชาติด้วยการเป็น ทหารกองประจำการ ซึ่งถือว่าเป็นการทำหน้าที่ ของชายไทยได้สมบูรณ์แบบ ตลอดเวลา 2 ปี หรือน้อยกว่าสำหรับบางคน ที่ทุกท่านต้องเหนื่อยยาก ต้องใช้ความอดทน แต่พวกท่านได้พิสูจน์ ตนเองแล้วว่ามีความเป็นนักสู้ อย่างแท้จริง ตลอดเวลาพวกท่านส่วนใหญ่  ได้ปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัยที่ดียิ่ง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น

“การปลดประจำการวันนี้ไม่ใช่เป็นการปลดภาระหน้าที่ในการป้องกันประเทศ ลักษณะวิธีปฏิบัติที่แตกต่างออกไปและประเทศของเรายังมีภัยคุกคามหลายด้าน ทั้งจากภายนอกประเทศและภายในประเทศทั้งในเรื่องยาเสพติด การทำลายทรัพยากรธรรมชาติหรือกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติต่าง ๆ ซึ่งพวกเราสามารถให้การช่วยเหลือ เช่น ด้านการข่าว ด้านการประชาสัมพันธ์ที่ถูกต้อง การเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนเพื่อกิจกรรมส่วนรวม เป็นต้น จึงขอให้ท่านรำลึกถึงภาระหน้าที่นี้ ตลอดจนนำความรู้ ประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างการเข้ามารับราชการในครั้งนี้ไปใช้ประโยชน์ในการดำรงชีวิตส่วนตนและส่วนรวมด้วยการประกอบอาชีพที่สุจริตเป็นคนดีของสังคม เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชาติบ้านเมืองสืบไป”