วันอาทิตย์, 16 กุมภาพันธ์ 2568

พิพากษาผู้ต้องสงสัยรับของโจร โดยสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้จากการบังคับใช้กฎหมาย และตรวจพบปืน 2 กระบอก ขณะอยู่ร้านน้ำชา พื้นที่ ม.2 ต.บาตง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 65

จากการติดตาม สืบสวนสอบสวน และจากข้อมูลของพี่น้องประชาชน ทำให้ทราบถึงข้อมูลบุคคลต้องสงสัยหลบซ่อนอยู่ใน พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส จนทำให้เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 เจ้าหน้าที่สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายบุคคลต้องสงสัย ขณะหลบซ่อนในร้านน้ำชา พื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส สามารถตรวจพบปืน จำนวน 2 กระบอก และควบคุมตัวได้ จำนวน 4 ราย โดยเบื้องต้นจากการตรวจสอบมีผู้ต้องสงสัยเกี่ยวข้องกับการรับของโจร จำนวน 3 ราย จึงปล่อยตัว จำนวน 1 ราย

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส พิพากษา “จำคุก 3 ปี 6 เดือน” นายคอเล็บ (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 1 และนายสุกรี (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 2 ความผิดฐานรับของโจร เนื่องจาก จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพตามฟ้องโจทก์ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือ “จำคุก 1 ปี 9 เดือน” และจำหน่ายคดีชั่วคราวในส่วนของ นายฮาซัน (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 3 เนื่องจากหลบหนี และขังจำเลยที่ 1 และที่ 2 ไว้ระหว่างอุทธรณ์

ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลจังหวัดนราธิวาส อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ภาค 9 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น ลงโทษ “จำคุก 3 ปี 6 เดือน” นายคอเล็บ (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 1 และนายสุกรี (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 2 ความผิดฐานรับของโจร เนื่องจากในชั้นพิจารณา จำเลยที่ 1 และที่ 2 ให้การรับสารภาพตามฟ้อง คำรับสารภาพนั้นเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา จึงลดโทษกึ่งหนึ่ง คงเหลือ “จำคุก 1 ปี 9 เดือน” และจำหน่ายคดีชั่วคราวในส่วนของนายฮาซัน (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 3 เนื่องจากหลบหนี และขังจำเลยที่ 1 และที่ 2 ระหว่างฎีกา

ทุกข้อมูล ทุกเบาะแส ล้วนมีความสำคัญต่อการนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอแจ้งให้ทราบว่าผู้ใดให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ