วันที่ 4 ม.ค. 64 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นผู้แทนพระองค์ในพิธีมอบประกาศนียบัตรแก่ผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ผ่านการเข้าฝึกอบรมโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” จำนวน 100 คน ณ เรือนจำจังหวัดสงขลา โดยมีนางกัญจนา เกลี้ยงเกลา ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา สมาชิกแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา เจ้าหน้าที่เรือนจำจังหวัดสงขลา และผู้ต้องราชทัณฑ์เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 อย่างเคร่งครัด
นายดำรงค์ บัวฤทธิ์ ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสงขลา กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้มีการฝึกโครงการพระราชทาน “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดสงขลา กรมราชทัณฑ์” ซึ่งเป็นการประยุกต์ใช้ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ขุดหนอง ทำนา เพื่อสร้างต้นแบบเกษตรทฤษฎีใหม่ในพื้นที่ขนาดเล็ก โดยสามารถดำเนินการได้ในทุกเรื่อง และมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนพื้นฐานความคิด การฝึกวินัย การลงมือปฏิบัติ ตลอดจนการแก้ปัญหาในสถานการณ์จริง เพื่อให้ผู้ต้องขังสามารถพึ่งพาตนเอง และช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับความเดือดร้อนได้เมื่อพ้นโทษออกไปภายนอก
ปัจจุบันการฝึกโครงการพระราชทานโคกหนองนาแห่งน้ำใจและความหวัง เรือนจำจังหวัดสงขลา กรมราชทัณฑ์ มีผู้เข้ารับการฝึกเป็นผู้ต้องขังที่เป็นคนไทย 100 คน โดยปฏิบัติการฝึกอบรมเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างวันที่ 21 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 3 มกราคม 2564 โดยแบ่งเป็น 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย ขั้นที่ 1 การอบรมพึ่งตนเองด้วยทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียง ขั้นที่ 2 การแปลงทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบัติ ประกอบด้วย การออกแบบแนวความคิด การบริหารจัดการพื้นที่ขนาดเล็ก การประยุกต์ทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้าน ปั้นโคก ชุดหนอง ทำนาตามภูมิสังคมลงบนกระดาษ การสร้างพื้นที่จำลอง (Table Top Exercise) และวางแผนการปลูกป่า 3 อย่างประโยชน์ 4อย่างเพื่อพออยู่ พอกิน พอใช้ และพอร่มเย็น การปฏิบัติพื้นที่จริง จำนวน 1 แปลง มีขนาดพื้นที่ 150 ตารางเมตรตามทฤษฎีใหม่แบบชาวบ้านปั้นโคก ขุดหนอง ทำนาตามภูมิสังคม และขั้นที่ 3 การสรุปและประเมินผล
ทั้งนี้ การฝึกอบรมได้ดำเนินการเสร็จสิ้นตามหลักสูตรการฝึก ซึ่งผลการฝึกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีผู้สำเร็จการฝึกจำนวน 100 คน จากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาสามารถพึ่งพาตนเองตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่ ทั้งสามารถช่วยเหลือประชาชนทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมได้ หลังจากนี้ผู้ต้องขังที่จะได้รับการพันโทษในโอกาสต่อไปจะต้องไปดำเนินการในพื้นที่ตามภูมิลำเนาของตนเองอันเป็นการสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในการ สืบสาน รักษา ต่อยอด โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจแก่ประชาชน เพื่อพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและช่วยกันพัฒนาประเทศ ให้เจริญก้าวหน้าต่อไป
ศิริลักษณ์ แคล้วคลาด/ข่าว/ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา