วันที่ 22 ธ.ค.63 นายจารุวัฒน์ เกลี้ยงเกลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสงขลา ครั้งที่ 4/2563 เพื่อเตรียมเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 และสำรวจกลุ่มเสี่ยง กรณีเหตุการณ์จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีนายวงศกร นุ่นชูคันธ์ นายวรณัฎฐ์ หนูรอต รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นายจรัญ จันทรปาน ปลัดจังหวัดสงขลา นพ.อุทิศศักดิ์ หริรัตนกุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสงขลา รวมถึงนายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุม1 ศาลากลางจังหวัดสงขลา
ตามที่ ได้มีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ในจังหวัดสมุทรสาครโดยมีผู้ติดเชื้อจำนวนมาก และมีการระบาดไปยังพื้นที่จังหวัดต่างๆ อาจทำให้เกิดการระบาดระลอกใหม่ เพื่อเป็นการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยจังหวัดสงขลาได้เตรียมดำเนินการ ค้นหาผู้มีประวัติสัมผัสพื้นที่เสี่ยงในช่วงตั้งแต่ 1 ธันวาคม 63 เพื่อนำตัวมารับการตรวจทางห้องปฏิบัติการและแยกกักใน Organizational Quarantine เฝ้าระวังอาการป่วยในผู้ที่มีประวัติเดินทางกลับจากจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงกรุงเทพและปริมณฑล นอกจากนี้ให้เตรียมความพร้อมของ รพ.หาดใหญ่ นาหม่อมเพื่อเป็น cohort ward และเร่งประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติตามมาตรการ New Normal และปฏิบัติการตามข้อสั่งการจากปลัดกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องของกลุ่มแรงงานต่างด้าว ด้วย
จังหวัดสงขลาจึงเตรียมออกมาตรการเฝ้าระวังและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ดังนี้
1. ให้ข้าราชการ บุคลากรของรัฐทุกประเภท และประชาชน ดำเนินการตามมาตรการทางสาธารณสุขในการป้องกันตนเองและผู้อื่น
2. ผู้ที่มีอาการของโรคทางเดินหายใจ ให้หยุดพัก รักษาตัวที่บ้าน จนกว่าจะหายดี แต่หากมีอาการ ที่ต้องสงสัย ซึ่งไม่มีประวัติ หรือมีประวัติเสี่ยงก็ตาม ต้องได้รับการตรวจคัดกรองที่โรงพยาบาล
3. ผู้ที่เดินทางไปจังหวัดสมุทรสาครหลังวันที่ 1 ธันวาคม 2563 เป็นต้นมาให้ถือว่ามีความเสี่ยง ให้แจ้งผู้บังคับบัญชา หรือหากเป็นประชาชน ให้แจ้ง ผู้ใหญ่บ้าน หรืออาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน เพื่อพิจารณา home quarantine และทำงานแบบ work from home เป็นเวลา 14 วัน
4. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง ณ ตลาดกลางกุ้งและหอพักศรีเมือง จังหวัดสมุทรสาคร หรือพื้นที่อื่นๆ ที่ ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ประกาศกำหนดจนกว่าจะมีการประกาศยกเลิก
5. การจัดกิจกรรมที่มีคนเข้าร่วมจำนวนมาก ให้ผู้จัด ดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรค อย่างเคร่งครัด คือ จุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ควบคุมผู้เข้าร่วมกิจกรรมไม่ให้แออัด จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ก่อนและหลังทำกิจกรรม จัดให้มีการสแกนแอพพลิเคชั่น ไทยชนะ เพื่อลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่
6. สถานบริการ สถานที่คล้ายสถานบริการ สถานประกอบการ ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ตลาดนัด ให้ผู้ประกอบการจัดให้มีกิจกรรมดำเนินตามมาตรการป้องกันโรค คือ จุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย สวมหน้ากากอนามัย อำนวยความสะดวกในการเว้นระยะห่าง จัดให้มีที่ล้างมือด้วยสบู่ หรือเจลแอลกอฮอล์ จัดให้มีการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ก่อนและหลังทำกิจกรรม จัดให้มีการสแกนแอพพลิเคชั่น ไทยชนะ เพื่อลงทะเบียนก่อนเข้าออกสถานที่
นอกจากนี้มีอีกหนึ่งมาตรการที่จะต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด คือ การควบคุมไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าว จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยให้ผู้ประกอบการหรือนายจ้างของแรงงานต่างด้าว ควบคุม ดูแล ให้อยู่ในพื้นที่ควบคุมต่อไป ทั้งนี้หากฝ่าฝืนการปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าว จะมีความผิดตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษ ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2558
ทั้งนี้ขอให้ประชาชน ติดตามการออกประกาศมาตรการ เฝ้าระวังป้องกันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยละเอียดอย่างเป็นทางการต่อไป
ฟารีด้า รอดกุบ /ข่าว
จิรพัฒน์ – ณิชารีย์ /ภาพ
สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา