วันศุกร์, 25 เมษายน 2568

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา รุดเยี่ยมให้กำลังใจภิกษุสามเณรประสบเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงรถยนต์กระบะ ใน อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา พร้อมให้กำลังใจเผย 4 มาตรการหลักดูแลพื้นที่เพื่อความสงบเรียบร้อย

 จากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิงรถยนต์กระบะ อีซูซุ 4 ประตู ซึ่งมี ร้อยตำรวจโท วัฒนารมย์ ชูมาปาน เจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจสะบ้าย้อย เป็นคนขับบรรทุกพระภิกษุ 2 รูป สามเณร 4 รูป (รวม 7 ราย) เหตุเกิดบริเวณถนนสวนโอน บ้านคลองเรียน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อเวลา 06.30 น. ของวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้สามเณรวงศกร ชูมาปาน อายุ 15 ปี บุตรชายของ ร้อยตำรวจโท วัฒนารมย์ ชูมาปาน โดนกระสุนและมรภาพในเวลาต่อมา

วันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ โรงพยาบาลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย นางปวีณ์ริศา เกิดสม นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา และประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา และนายมงคล สินยัง นายอำเภอสะบ้าย้อย เดินทางเข้าเยี่ยมพระภิกษุและสามเณรที่ยังคงพักรักษาตัวอยู่ ซึ่งทุกรูปอาการปลอดภัย สภาพจิตใจดีขึ้นแล้ว มีเพียงสามเณรโภคนิษฐ์ โมราศิลป์ อายุ 11 ปี ที่ได้รับบาดเจ็บเศษกระจกกระเด็นโดนศรีษะเป็นเเผลถลอกเล็กน้อย ทั้งหมดยังคงอยู่ในการดูแลของทีมแพทย์และทีมสหวิชาชีพ

นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า วันนี้ตนและนายกเหล่ากาชาด ตั้งใจเดินทางมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง เท่าที่เห็นคือสามเณรยังอยู่ในภาวะตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทุกภาคส่วนในจังหวัดสงขลาต่างมีความเป็นห่วงผู้ได้รับผลกระทบ ฝ่ายคณะสงฆ์ทั้งในส่วนของเจ้าคณะภาค เจ้าคณะจังหวัด พระผู้ใหญ่ ก็ได้เดินทางมาเยี่ยมให้กำลังใจ ส่วนราชการ ฝ่ายความมั่นคง กองทัพภาคที่ 4 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กองทัพเรือภาคที่ 2 ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจ ขอให้ทุกรูปมีกำลังใจที่ดีขึ้น

ขณะเดียวกันจังหวัดก็ได้ผนึกกำลังดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ด้วยการวางมาตรการป้องกันระงับยับยั้งและดูแลพื้นที่ให้มีความสงบเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน ห้วงปีที่ผ่านมาจังหวัดสงขลาไม่มีเหตุการณ์เกิดขึ้น ถือว่าเป็นครั้งแรกในรอบหกเดือน ทั้งนี้จังหวัดสงขลาได้มีการประกาศยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ และมีมาตรการต่าง ๆ ในพื้นที่เน้น 4 เรื่องสำคัญเพื่อให้เกิดความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนประการแรก 1) คือเรื่องการดูแลด้านการอำนวยการสั่งการให้มีความถูกต้องชัดเจน และมีความเป็นเอกภาพโดยเฉพาะฝ่ายพลเรือน 2) การจัดกำลังดูแลคุ้มครองพื้นที่ โดยเฉพาะ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา กำชับต้องดูเเลตั้งแต่อำเภอ ตำบล ชุมชน หมู่บ้าน โดยชุดคุ้มครอง 3) เราได้วางมาตรการป้องกันระงับยับยั้งและดำเนินการตามกฎหมาย ตามบทบาทของกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครอง มาตรการ 4) คือ การดูแลสถานที่เชิงสัญลักษณ์ต่าง ๆให้เกิดความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้เกิดขึ้น โดยเฉพาะกับพี่น้องประชาชนในจังหวัด เราเชื่อว่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้กำลังใจและเข้าใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามเชื่อว่าการดำเนินการตาม 4 มาตรการหลักอย่างเข้มงวดก็จะสามารถดูแลพื้นที่และประชาชนได้ ส่วนปมประเด็นความขัดแย้งทางศาสนา สิ่งเหล่านี้ไม่อยากให้นำมาเชื่อมโยง ส่วนมาตรการเเก้ปัญหาก็อยู่ใน 4 มาตรการที่แจ้งไปแล้ว คือ อยู่ในการอำนวยการสังเคราะห์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ถูกต้อง มีข้อมูลที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ ที่จังหวัดคำนึงถึง เพื่อสร้างความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ให้เกิดความสงบและมุ่งยุติความรุนแรงที่เกิดขึ้นทุกรูปแบบ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครรับได้ ขอให้พระคุณเจ้าทุกรูปมีกำลังใจที่เข้มแข็ง และขอเเสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ยืนยันจังหวัดสงขลาไม่ทอดทิ้ง พร้อมดูแลช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเต็มที่

ส่วนในวันพรุ่งนี้ 24 เมษายน 2568 ทางจังหวัดก็จะลงพื้นที่มาอีกครั้ง เพื่อร่วมพิธีรดน้ำศพสามเณรวงศกร ณ วัดทำเนียบธรรมาราม ตำบลสะบ้าย้อย อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ในเวลา 15.00 น. พร้อมมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 7 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 560,000 บาท โดยครอบครัวของผู้เสียชีวิต จะได้รับเงินช่วยเหลือ จำนวน 500,000 บาท ผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 6 ราย จะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 10,000 บาท