เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2567 ขณะเจ้าหน้าที่ชุดช่าง กองร้อยทหารพรานที่ 4908 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 กำลังดำเนินการตักทรายที่บริเวณหัวสะพาน บ้านปารีย์ หมู่ที่ 4 ตำบลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส เพื่อมาปรับปรุงฐานปฏิบัติการ ซึ่งได้รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา เนื่องจากหน่วยดังกล่าวได้ออกไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตลอดห้วงเกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ในพื้นที่ โดยเมื่อเวลา 10.30 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธไม่ทราบชนิดและขนาด ซุ่มยิงเจ้าหน้าที่ชุดช่างดังกล่าวอย่างไร้มนุษยธรรม หลังจากเหตุสถานการณ์อุทกภัยที่เริ่มจะทุเลาเบาบางลง กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงก็เริ่มกลับมาออกปฏิบัติการทำร้ายเจ้าหน้าที่ โดยไม่สนใจว่าที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เหล่านี้จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนให้พ้นจากความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างไร… จากเหตุการณ์ลอบยิงครั้งนี้ทำให้มีกำลังพลได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 นาย ทราบชื่อดังนี้
- อาสาสมัครทหารพราน วุฒิชัย ไทยประดิษฐ์ อายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 40/2 หมู่ที่ 6 ตำบลชุมโด อำเภอปะทิว จังหวัดชุมพร ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณหน้าอก
- อาสาสมัครทหารพราน จักรพงษ์ ฤทธิรุตม์กูล อายุ 29 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 125 หมู่ที่ 6 ตำบลฉวาง อำเภอฉวาง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณแขนขวา
ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 2 นาย ถูกนำส่งเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลจะแนะ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส ต่อมาทั้งคู่ถูกนำตัวส่งรักษายังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ จังหวัดนราธิวาส โดย อาสาสมัครทหารพราน จักรพงษ์ ฤทธิรุตม์กูล ได้รับบาดเจ็บ อาการโดยรวมปลอดภัย ปัจจุบันรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ด้าน อาสาสมัครทหารพราน วุฒิชัย ไทยประดิษฐ์ ได้รับบาดเจ็บสาหัสถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และเสียชีวิตเนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว
ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และรวบรวมวัตถุพยานหลักฐานต่าง ๆ เตรียมขยายผลติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด สำหรับความคืบหน้าจะรายงานให้ทราบต่อไป
กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอสดุดี อาสาสมัครทหารพราน วุฒิชัย ไทยประดิษฐ์ วีรบุรุษผู้กล้า ผู้สละชีพในการปฏิบัติหน้าที่ปกป้องชายแดนใต้จนวินาทีสุดท้ายของชีวิต และขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัววีรบุรุษผู้กล้า พร้อมขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
