วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

นายกฯ สาคร นายกฯสาคร ตรวจสอบสั่งเพิ่มความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ งาน HALAL STREET@HATYAI

จากการที่ในสื่อโซเชี่ยลมีเดียและเพจต่างๆ ได้ลงข้อความการปิดถนนและทำทางเบี่ยง เพื่อจัดงานฮาลาลสตรีท@หาดใหญ่ HALAL STREET@HATYAI บริเวณถนนเพชรเกษมขาออก(หาดใหญ่ใน) แล้วทำให้เกิดอุบัติเหตุเมื่อช่วงค่ำวันที่ 24 กรกฎาคม 2565 นั้น

วันนี้(28ก.ค.2565) พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเขต 3 สารวัตรจราจร ผู้แทนสถานีตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ได้ชี้แจงแก่สื่อมวลชนที่มาร่วมทำข่าว กรณีเหตุดังกล่าว ณ บริเวณทางเบี่ยงก่อนทางเข้าบริเวณงาน โดยชี้แจงว่า ในวันเกิดเหตุเป็นวันแรกในการเริ่มปิดถนนเพื่อดำเนินติดตั้งเต้นท์และอุปกรณ์ในการจัดงาน การประชาสัมพันธ์ของผู้จัดงานอาจจะไม่ทั่วถึง พร้อมกับมีการนำแผงมาปิดกั้นทำทางเบี่ยง ยังไม่ได้ติดตั้งสัญญาณไฟเตือนและไฟส่องสว่างให้เป็นที่ กระผมได้ประสานทางร้อยเวรและสอบถามผู้ขับขี่แล้ว ได้รับการยืนยันว่า “ผู้ขับขี่กำลังใช้โทรศัพท์ดู Live สด ในขณะขับรถ มองไม่เห็นแผงกั้นและป้ายบอกทางเบี่ยง ทำให้หักหลบและเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว และคนขับได้มาขอโทษผู้จัดงานแล้ว เป็นเพราะตนประมาทเองดูโทรศัพท์มือถือเลยชน” และต่อมาผู้จัดงานได้ทำการติดตั้งสัญญาณไฟ ไฟส่องแสงสว่างพร้อมป้ายแจ้งทางเบี่ยงเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อย อุบัติเหตุก็ไม่เกิดขึ้น วันนี้ก็ได้มาดูสถานที่หลังจากที่ได้สั่งการไปเมื่อวานที่มีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการไปแล้ว ให้เพิ่มไฟส่องสว่าง ป้ายเตือนพร้อมสัญญาณไฟเพิ่มเติม ก็ได้รับการแก้ไขจากผู้จัดงานเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการการปิดถนนตรงจุดนี้เป็นอำนจหน้าที่ตามกฎหมายของงานจราจร สภ.หาดใหญ่ ที่ให้ความเห็นชอบ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเทียว ฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองหาดใหญ่และใกล้เคียงในจังหวัดสงขลา ซึ่งมีสมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน เป็นผู้จัดงาน และทางเทศบาลนครหาดใหญ่ต้องขออภัยในความไม่สะดวกแก่ผู้ใช้รถและสัญจรไปมาในช่วงระยะเวลาที่มีการจัดงานบริเวณนี้ด้วย

ทางด้านคุณอัยดา อูเจ๊ะ นายกสมาคมการค้าการท่องเที่ยวฮาลาลไทย-อาเซียน กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเทียว ฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของเมืองหาดใหญ่และใกล้เคียงในจังหวัดสงขลา หลังจากที่ประเทศเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 มาเป็นระยะเวลา 2 ปี และทางรัฐบาลได้เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวผ่านทางด่านชายแดนได้ ซึ่งเป็นผลดีต่อธุรกิจและการท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา ซึ่งทางสมาคมฯก็ได้เชิญนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย จำนวน กว่า 1,000 คน คาดว่าจะมีการจับจ่ายไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท