จากวัดร้างสู่ศูนย์กลางศรัทธาของชุมชน วัดค่ายไทร หมู่ที่ 5 ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา อดีตวัดร้างที่ถูกปล่อยทิ้งมานานกว่าร้อยปี ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์ตั้งแต่ปี 2560 – ปัจจุบัน โดย พระวินัยธร นิวัฒน์วลาโภ เจ้าอาวาสผู้มุ่งมั่นฟื้นฟูให้วัดกลับมาเป็นที่พึ่งทางจิตใจ ท่ามกลางป่าใหญ่ชายแดนไทย-มาเลเซีย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในชุมชนที่ผสานวัฒนธรรมระหว่างพี่น้องไทยพุทธและไทยมุสลิม แม้เส้นทางจะห่างไกลการคมนาคม แต่สายธารศรัทธาแห่งบุญของพี่น้องพุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาร่วมบุญอย่างเนืองแน่น
วันนี้ (8 มีนาคม 2568) เวลา 12.30 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานฝ่ายฆราวาสในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี ประจำปี 2568 เพื่อนำจตุปัจจัยสมทบทุนบูรณะศาลาการเปรียญให้แล้วเสร็จ ณ วัดค่ายไทร ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา โดยมี พระวินัยธร นิวัฒน์วลาโภ เจ้าอาวาสวัดค่ายไทร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ และ พระครูสุภัทรธรรมากร เจ้าคณะอำเภอหาดใหญ่ (ธรรมยุต) / เจ้าอาวาสวัดพระบาท ร่วมแสดงธรรมเทศนา พร้อมด้วย นางวราภรณ์ หนูสังข์ ประธานแม่บ้านสมาคมทหารบกสาขากองทัพภาคที่ 4, ว่าที่ร้อยตรี ณฐวรรธน์ ช่างพูด รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา, คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใยภาคที่ 4 ส่วนหน้า, หัวหน้าส่วนราชการ ทหาร ตำรวจ ภาคพลเรือนในพื้นที่ และพุทธศาสนิกชนผู้มีจิตศรัทธา เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยจตุปัจจัยที่รวบรวมได้จากผู้มีจิตศรัทธาในครั้งนี้ มียอดรวมทั้งสิ้น 723,000 (เจ็ดแสนสองหมื่นสามพันบาทถ้วน)
ด้าน พระวินัยธร นิวัฒน์วลาโภ เจ้าอาวาสวัดค่ายไทร เปิดเผยว่า “วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่ดีของพี่น้องประชาชนในพื้นที่หมู่ 5 บ้านค่ายไทร ตำบลสำนักแต้ว อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และพี่น้องพุทธศาสนิกชนที่หลั่งไหลกันมาเป็นสายธารบุญ ในโอกาสที่ พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 ได้มีโอกาสเดินทางมาเป็นประธานในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีของวัด กว่า 100 ปี ที่วัดแห่งนี้ถูกทิ้งร้าง กระทั่งเมื่อปี 2560 ชาวบ้านในพื้นที่ได้นิมนต์ พระวินัยธร นิวัฒน์วลาโภ ให้มาจำวัด ณ วัดแห่งนี้ และทำการบูรณะปฏิสังขรณ์เรื่อยมา กระทั่งได้รับการจัดตั้งตราวัดเมื่อปี 2567 ปัจจุบันมีพระจำพรรษารวมทั้งหมด 3 รูป ความโชคดีของวัดค่ายไทร คือ บริเวณพื้นที่โดยรอบของวัด ประกอบไปด้วยหมู่บ้านของพี่น้องประชาชนทั้งชาวไทยพุทธ, ไทยมุสลิมและชาวมอญ ทุก ๆ ครั้ง ที่มีการพัฒนาวัด หรือวัดต้องการความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นการสร้างถนน สร้างอาคารสถานที่ต่าง ๆ ที่ผ่านมา ก็ได้รับความร่วมมือร่วมใจ จากพี่น้องประชาชนในชุมชนโดยรอบอย่างไม่มีเงื่อนไข วัดค่ายไทรแห่งนี้ จึงกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความร่วมแรงร่วมใจของพี่น้องประชาชน เป็นภาพสะท้อนสังคมพหุวัฒนธรรมจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างไม่ปฏิเสธไม่ได้”
