วันอาทิตย์, 27 เมษายน 2568

ธารธรรมหลั่งไหล พล.อ.มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4 พร้อมด้วยพี่น้องประชาชนร่วมทอดผ้าสามัคคีและทำบุญวัดเกาะอภินิหาร (วัดกุหร่า) สืบสานพระพุทธศาสนา สะท้อนพลังชุมชนพหุวัฒนธรรม จชต.

จากภาพเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น ในช่วงวันที่ 22 เมษายน 2568 คนร้ายลอบยิงพระภิกษุและสามเณรวัดกุหร่า(ร้าง) ที่บริเวณทางเข้าวัด ขณะเดินทางออกบิณฑบาต ส่งผลให้ สามเณร วงศกร ชูมาปาน มรณภาพ ได้สร้างความโศกเศร้าเสียใจให้กับสังคม ซึ่งก่อนหน้าเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทางคณะกรรมการวัดและพุทธบริษัทผู้เลื่อมใสศรัทธาได้ปรึกษาพร้อมใจกำหนดจัดทอดผ้าป่าสามัคคี และทำบุญตักบาตรให้กับบูรพาจารย์และบรรพชนของวัดกุหร่าขึ้นในวันที่ 25 เมษายน 2568 การนี้ พระมานพ มหาวิโร เจ้าอาวาสวัดกุหร่าจึงเดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ เพราะวัดแห่งนี้ถูกบูรณะจากความร่วมมือของคนในชุมชนทั้งไทยพุทธ และไทยมุสลิม โดยเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเพียงความต้องการสร้างความแตกแยกของคนเพียงกลุ่มเดียว ซึ่งไม่ใช่ความต้องการของพี่น้องประชาชน

วันนี้ (25 เมษายน 2568) เวลา 12.55 น. ที่วัดเกาะอภินิหาร หรือ วัดกุหร่า(ร้าง) บ้านสวนโอน ตำบลเปียน อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน 4 / เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ / นายกสมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ในพิธีทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อสมทบทุนบูรณะปฏิสังขรณ์ศาสนสถานและสร้างถนนลูกรังวงแหวนรอบวัด และถมขยายถนนหน้าวัดเพื่อความสะดวกในการสัญจรในการ อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาประกอบศาสนกิจต่าง ๆ โดยมี พระมานพ มหาวิโร เจ้าอาวาสวัดเกาะอภินิหาร หรือ วัดกุหร่า(ร้าง) เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ มี พระครูปลัดสุพรรณ สุวํณโณ ประธานที่พักสงฆ์ศูนย์ 90 สมเด็จพระศรีนครินทร์ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา แสดงธรรมเทศนา และ พันเอก อุทัย รุ่งสังข์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจสงขลา นายพงษ์ศักดิ์ พรหมสังข์ ประธานสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ และเครื่อข่ายสมาพันธ์ไทยพุทธทั้ง 4 จังหวัด ประกอบด้วย ยะลา ปัตตานี นราธิวาส และสงขลา ตลอดจนพี่น้องประชาชนผู้มีจิตศรัทธาร่วมในพิธีด้วยความอบอุ่น ซึ่งจตุปัจจัยที่รวบรวมได้จากผู้มีจิตศรัทธาในเบื้องต้น 143,750 บาท (หนึ่งแสนสี่หมื่นสามพันเจ็ดร้อยห้าสิบบาทถ้วน)

 ด้าน พลเอก มณี จันทร์ทิพย์ ที่ปรึกษาผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน 4 /เลขาธิการศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ / นายกสมาคมเพื่อความมั่นคงพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า วันนี้รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาที่วัดแห่งนี้ เพราะ พลเอก มณี ฯ เป็นกลุ่มบุคคลแรกๆ ที่ได้เข้าร่วมด้วยช่วยกันกับพี่น้องประชาชน ในการบูรณะศาสนสถานแห่งนี้ ซึ่งเมื่อสิบปีที่แล้วสถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างและปกคลุมไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีเพียงร่องรอยอิฐเก่าของอุโบสถที่ยังคงเหลือให้ได้เห็น จึงได้ประสานกับทางสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม ทำให้เกิดการพัฒนาจนถึงปัจจุบัน โดยท่านได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า จากสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลให้พี่น้องไทยพุทธส่วนหนึ่งได้ย้ายถิ่นฐานออกจากพื้นที่ ทำให้วัดและศาสนาสถานถูกทิ้งร้างกว่า 397 แห่ง ปัจจุบันทางศูนย์พัฒนาและส่งเสริมพระพุทธศาสนาจังหวัดชายแดนภาคใต้และสมาพันธ์ไทยพุทธจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ประสานการทำงานกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ รวมถึงพี่น้องประชาชน ได้พัฒนาบูรณะวัดร้างจนกระทั่งปัจจุบันเหลือเพียงประมาณ 20 แห่ง ที่ต้องการฟื้นฟูให้กลับมาเป็นศาสนสถาน เป็นศูนย์รวมของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป

สำหรับวัดเกาะอภินิหาร มีชื่อเดิมว่าวัดกุหร่า(ร้าง) เพราะยังมีสถานะเป็นวัดร้าง ตั้งแต่ปี 2558 ชาวบ้านทั้งไทยพุทธ – ไทยมุสลิมได้ช่วยกันบูรณะฟื้นฟู จนปัจจุบันมีพระภิกษุสงฆ์อยู่จำวัด เกือบ 10 รูป โดยวัดนี้ยังเป็นต้นกำเนิด หลวงปู่ทวดลิ้นดำ ที่ชาวพุทธศรัทธา รวมถึงอุโบสถโบราณอายุกว่า 300 ปี ที่คาดว่าถูกสร้างสมัยอยุทธยาตอนปลาย ซึ่งกลายเป็นศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย