จากเหตุการณ์ กรณีคนร้ายแต่งชุดดำสวมหมวกปิดบังใบหน้าและมีอาวุธปืน ยิงและขว้างระเบิดแสวงเครื่องแบบไปป์บอมบ์ ใส่จุดตรวจร่วม 3 ฝ่าย บนถนนสาย 410 หน้าตลาดนัดกรงปินัง หมู่ที่ 7 ตำบลกรงปินัง อำเภอกรงปินัง จังหวัดยะลา และเกิดการต่อสู้ระหว่างคนร้ายกับเจ้าหน้าที่ เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 12 นาย โดยเกิดเหตุเวลาประมาณ 01.15 น. ของวันที่ 3 เมษายน 2560 หลังเหตุการณ์สิ้นสุดลง เจ้าหน้าที่เข้าควบคุมพื้นที่เพื่อรวบรวมวัตถุพยาน หลักฐานนิติวิทยาศาสตร์ และภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อใช้ประกอบการสืบสวนสอบสวนติดตามตัวคนร้ายเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
ล่าสุดเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลชั้นต้น พิพากษา ลงโทษ “จำคุกตลอดชีวิต” นายมะรูดิง (สงวนนามสกุล) ในความผิดฐานก่อการร้าย สะสมกำลังพลและอาวุธเพื่อก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น ความผิดต่อชีวิต พกพาอาวุธในที่สารธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร พระราชบัญญัติอาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์มีน้ำหนักสามารถรับฟังได้ว่าจำเลยนั้น คือ คนร้ายที่ได้ร่วมกระทำความผิดในคดีนี้ อีกทั้งจากผลจากซักถามฯ จำเลยได้รับต่อเจ้าหน้าที่ซักถามว่าจำเลยได้เป็นสมาชิกในขบวนการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ และมีส่วนร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้ โดยการกระทำของจำเลยมีหลายกรรม ดังนั้นจำเลยต้องได้รับโทษในบทที่หนักที่สุด คือ พยายามฆ่าเจ้าพนักงานที่ได้กระทำตามหน้าที่ โดยไตร่ตรองไว้ก่อน ให้จำคุกตลอดชีวิต แต่คำให้การของจำเลยเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษให้ 1 ใน 3 คงเหลือ ลงโทษ “จำคุก 37 ปี 20 เดือน” และขังจำเลยระหว่างอุทธรณ์
ทุกข้อมูลของพี่น้องประชาชนนั้นเป็นประโยชน์ต่อการสืบสวนสอบสวน ส่งผลให้สามารถนำผู้กระทำผิดหรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมได้ หลายๆเหตุการณ์ด้วยความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ดังนั้นพี่น้องประชาชนเองจึงมีส่วนสำคัญในการดูแลพื้นที่ให้ปลอดภัย ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกท่านที่ให้ความร่วมมือในการมีส่วนร่วมดูและพื้นที่ร่วมกัน และยังคงต้องการข้อมูล เบาะแสจากท่าน โดยหากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 หรือสามารถแจ้งต่อหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอแจ้งให้ทราบว่าผู้ใดให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ