![](http://www.khawchawbannews.com/wp-content/uploads/2025/02/476531217_1177540644372499_2699355517416734696_n-1024x1024.jpg)
จากเหตุเมื่อวันที่ 4 เมษายน 2567 เวลาประมาณ 01.45 น. คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง บริเวณลานจอดรถ จำนวน 1 จุด และบริเวณตู้ ATM ธนาคารกรุงไทย หน้าร้านสะดวกซื้อ Mini Big C สาขาดุซงญอ หมู่ที่ 1 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส อีก 1 จุด ต่อมาเวลาประมาณ 02.18 น. ได้เกิดเหตุระเบิดบริเวณดังกล่าว ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีประชาชนหรือเจ้าหน้าที่อยู่ในพื้นที่ จึงทำให้ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เจ้าหน้าที่จึงเข้าควบคุมที่เกิดเหตุ ป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นภายหลัง และดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป
สำหรับความคืบหน้าคดีนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลชั้นต้นพิพากษา “จำคุกตลอดชีวิต จำเลยทั้ง 4 นายคือ นายอรรนพ (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 1 , นายสาลาฮูดิน (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 2 , นายอัสรี (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 3 และ นายบูลยามีน (สงวนนามสกุล) จำเลยที่ 4 และชดใช้ค่าสินไหมทดแทน เป็นเงินจำนวน 149,391 บาท” เนื่องจากพยานหลักฐานโจทก์นั้น สามารถนำสืบได้ว่าจำเลยที่ 4 คือ คนร้ายที่ร่วมก่อเหตุในคดีนี้ อีกทั้ง คำรับสารภาพของจำเลยทั้ง 4 และพยานหลักฐานอื่นๆ ของโจทก์ที่นำสืบทำให้ศาลเชื่อว่าจำเลย ได้ร่วมกระทำความผิดดังกล่าวข้างต้นจึงลงโทษในความผิดฐาน พยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน อันเป็นโทษบทหนักสุด แต่คำให้การของจำเลยทั้ง 4 เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาจึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง ตามแต่ความผิดของแต่ละคนที่ได้กระทำ ดังนั้นโทษจำคุกทั้ง 4 ศาลจึงลดให้คงเหลือ “จำคุก จำเลยที่ 1 จำนวน 31 ปี, จำคุกจำเลยที่ 2 จำนวน 28 ปี 19 เดือน จำคุกจำเลยที่ 3 และจำเลยที่ 4 จำนวน 28 ปี 18 เดือน และให้จำเลยทั้ง 4 คน ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนดังที่กล่าวข้างต้น” และขังจำเลยทั้ง 4 ระหว่างอุทธรณ์
ทุกข้อมูล ทุกเบาะแส ล้วนมีความสำคัญต่อการนำผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย รวมถึงบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอแจ้งให้ทราบว่าผู้ใดให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ