วันอาทิตย์, 23 กุมภาพันธ์ 2568

กำชับหน่วยให้ทบทวนมาตรการ เพื่อเฝ้าระวัง ซีลชายแดนใต้เข้ม ป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย

รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตรวจเยี่ยมหน่วย และกำลังพลที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดน ไทย – มาเลเซีย เพื่อกำชับและเน้นย้ำมาตรการ ซีลชายแดน คุมเข้มเฝ้าระวัง และป้องกันการกระทำผิดตามแนวชายแดนทุกรูปแบบ

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 09.20 น. พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และติดตามการปฏิบัติงานของหน่วย และกำลังพลที่ปฏิบัติงานตามแนวชายแดนไทย / มาเลเซีย ณ กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 3 ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตาม พร้อมเน้นย้ำเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยชายแดน ทั้งเรื่องการระวังป้องกันชายแดน การสกัดกั้นการกระทำผิดตามแนวชายแดนทุกรูปแบบ รวมถึงการหลบหนีข้ามแดนแบบผิดกฎหมาย การลักลอบนำอาวุธ วัตถุระเบิด สินค้าผิดกฎหมาย รวมถึงยาเสพติด และสิ่งที่เป็นภัยแทรกซ้อนทุกรูปแบบ พร้อมสั่งการให้หน่วยได้ทบทวนมาตรการการปฏิบัติงาน ทั้งเรื่องกำลังพล เครื่องมือ รวมถึงกล้อง CCTV หรือเทคโนโลยี ต่าง ๆ ให้ระดมนำมาช่วยในการเฝ้าระวัง หรือซีลชายแดนอย่างเข้มข้นตลอดแนวชายแดน และลำน้ำสุไหงโก-ลก ควบคู่กับการประสานการปฏิบัติงาน และติดตามข้อมูลข่าวสารระหว่างกันของทั้งสองประเทศอย่างใกล้ชิด โดยมี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วยผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ร่วมประชุม เพื่อติดตามการปฏิบัติงาน พร้อมรับทราบปัญหาข้อขัดข้องและรับมอบแนวทางการปฏิบัติงานในครั้งนี้

พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า “การซีลชายแดนเป็นภารกิจที่สำคัญ ที่นอกเหนือจากการเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวขายแดนใต้แล้ว หน่วยต้องสานความสัมพันธ์พบปะเพื่อเป็นกระชับความสัมพันธ์ในการปฏิบัติภารกิจร่วมกันกับหน่วยกำลังของประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย ควบคู่กับการลงไปดูแลความเป็นอยู่ ไปพูดคุยพบปะสอบถามสารทุกข์สุกดิบของประชาชนในพื้นที่ สร้างการมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายในพื้นที่ให้ช่วยกันแจ้งเบาะแส ข่าวสาร ช่วยกันเฝ้าระวังป้องกันสิ่งผิดกฎหมาย รวมถึงเฝ้าระวังการสร้างสถานณ์ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้น ประกอบกับการประกาศปิดด่านของประเทศมาเลเซีย โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ ซึ่งส่งผลกระทบในหลายด้าน ทั้งการเดินทางไปมาของทั้งสองประเทศ และการค้าขายที่ลดลง ซึ่งนับเป็นปัจจัยที่ทั้งสองประเทศต้องหาจุดร่วมในการพัฒนาและแก้ไขปัญหากันต่อไป ทั้งนี้เพื่อสร้างพื้นที่ให้ปลอดเหตุ ประชาชนปลอดภัย หากพื้นที่สงบสุขจะส่งผลให้ภาพรวมทั้งการดำเนินชีวิตประจำวัน การค้าเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวก็จะส่งผลดีตามไปด้วย

ภายหลังจากประชุม พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ไปเยี่ยมกำลังพลที่ปฏิบัติงาน ณ ท่ากอไผ่ และท่าชมพู่ เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงาน และให้กำลังใจพร้อมมอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงาน

พร้อมกันนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ถือโอกาสพบปะพูดคุยเยี่ยมให้กำลังใจพี่น้องประชาชนในพื้นที่ชุมชนท่ากอไผ่ และชุมชนท่าชมพู่ ซึ่งเป็นท่าข้ามเรือที่ประชาชนในพื้นที่ และประชาชนฝั่งประเทศมาเลเซียใช้ในการข้ามไปมาหาสู่ระหว่างกัน ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบเนื่องจากการประกาศปิดด่านชายแดน ตามที่ประเทศมาเลเซียประกาศปิดด่าน ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันประชาชนทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบเนื่องจากที่ผ่านมาเคยใช้ช่องทางธรรมชาติ ซึ่งปัจจุบันถูกปิดและห้ามใช้ในการข้ามประเทศ ต้องใช้เส้นทางที่ถูกกฎหมายเท่านั้น ซึ่งขณะนี้ประชาชนได้รับผลกระทบทั้งในเรื่องของการประกอบอาชีพ การค้าขาย เศรษฐกิจ รวมถึงนักเรียนที่เดินทางไปเช้า-เย็นกลับ ก็ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ซึ่งการปิดด่านทางฝั่งของประเทศมาเลเซียยังคงเป็นไปตามกฎหมายฝั่งประเทศเพื่อนบ้านของเราจึงขอให้พี่น้องประชาชนคนไทยที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ตามแนวชายแดนดังกล่าว ขอให้ข้ามแดนให้ถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งการปรับตัวในการใช้ชีวิตเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันต่อไป