เดือนที่ 9 ตามปฏิทินทางจันทรคติของอิสลาม ถือเป็นเดือนที่ชาวมุสลิมทั่วโลกจะ “ถือศีลอด” ตลอดทั้งเดือน โดยในปี 2568 ตามประกาศของสำนักจุฬาราชมนตรีได้ระบุให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทั่วประเทศดูดวงจันทร์ในวันศุกร์ที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 หลังดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้า เพื่อกำหนดวันที่ 1 เดือนรอมฎอน ฮิจเราะห์ศักราช 1446 เริ่มต้นขึ้น เพื่อเป็นเดือนอันประเสริฐและการระลึกถึงความยากลำบากของเพื่อนมนุษย์ที่ทุกข์ยาก การถือศีลอดจึงเป็นการปฏิบัติศาสนกิจเพื่อให้รู้จักอดทนอดกลั้นต่อความทุกข์ยากต่าง ๆ ด้วยความเพียร และสติปัญญา ขัดเกลาจิตใจให้อิสลามิกชนเป็นผู้มีสติหนักแน่น อดทนต่อความหิวโหย อดทนต่อความโกรธ ไม่ปล่อยจิตใจไหลไปตามสิ่งเย้ายวนอารมณ์ ที่ผ่านมา กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ดำเนินการอำนวยความสะดวกและสนับสนุนการประกอบศาสนกิจของพี่น้องชาวมุสลิมอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในวันนี้ (21 กุมภาพันธ์ 2568) เวลา 10.30 น. พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานการประชุมแถลงแผนปฏิบัติการ 4683 – รอมฎอนสันติสุข ประจำปี 2568 ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยมี พลตรี วรเดช เดชรักษา รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนคณะผู้บังคับบัญชาจากหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เข้าร่วมประชุม
พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “วันนี้ถือเป็นโอกาสสำคัญที่ทุกหน่วยได้มาร่วมกันรับฟังแนวทางการปฏิบัติ เพื่อให้เดือนรอมฎอนปี 2568 เป็นเดือนแห่งสันติสุขอย่างแท้จริง พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม และศาสนา ความสงบสุขและความปลอดภัยของพี่น้องประชาชนในช่วงเดือนรอมฎอน เป็นภารกิจสำคัญที่ทุกหน่วยต้องร่วมกันขับเคลื่อนอย่างเต็มขีดความสามารถ ซึ่งแผนปฏิบัติการ 4683 – รอมฎอนสันติสุข ที่จะดำเนินการในปีนี้ มีเป้าหมายชัดเจน ที่จะต้องควบคุมพื้นที่และรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มข้น ลดช่องว่าง ลดโอกาส ลดภัยคุกคาม เสริมสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อให้เกิดความเข้าใจและความไว้วางใจ อำนวยความสะดวกให้พี่น้องประชาชนในการปฏิบัติศาสนกิจ ภายใต้บรรยากาศที่สงบเรียบร้อย ดำเนินมาตรการเชิงรุก ป้องกันและปราบปรามกลุ่มผู้ไม่หวังดีให้ไม่สามารถเคลื่อนไหวในช่วงเวลาสำคัญนี้ ทุกหน่วยต้องควบคุมการปฏิบัติให้เป็นไปตามแผนอย่างเข้มงวด ยึดถือข้อห้ามข้อควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และการควบคุมพื้นที่จะต้องมีแผนที่รัดกุม มีความรอบคอบ ในการปฏิบัติทางยุทธวิธี และมีการประสานงาน ระหว่างหน่วยงานอย่างใกล้ชิด ขอให้พึงระลึกว่าทุกหน่วย คือส่วนสำคัญ ในการขับเคลื่อนแผนงานให้เกิดผลเป็นรูปธรรม และเพื่อให้พี่น้องประชาชนทุกศาสนาในพื้นที่ได้รับความปลอดภัย และความเชื่อมั่นว่าภาครัฐพร้อมดูแลความสงบและความปลอดภัย ให้พี่น้องประชาชน“
ทั้งนี้ เพื่อให้ในห้วงเดือนรอมฎอน เป็นห้วงเวลาแห่งการพัฒนาตนเอง และศรัทธาอันบริสุทธิ์ของประชาชนชาวมุสลิม เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจตามประเพณีและวัฒนธรรมอันเต็มเปี่ยมด้วยความสงบ ศรัทธา เชื่อมั่นต่อองค์ศาสดา เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดปัตตานี จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ประกอบด้วย อำเภอจะนะ อำเภอนาทวี อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย ห้ามมิให้ผู้ใด ซื้อ ขาย ใช้ ดอกไม้เพลิง พลุ ประทัด และวัตถุอื่นใด อันมีสภาพคล้ายคลึงกัน ที่ทำให้เกิดเสียงดัง ประทัด และสิ่งเทียมที่ทำให้เกิดเสียงดัง ตลอดห้วงเดือนรอมฎอน เว้นแต่เป็นการประกอบศาสนกิจตามประเพณี ณ สถานที่ที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฯ กำหนด เช่น ศาลเจ้า สมาคม ฯลฯ ตั้งแต่ วันที่ 1 มีนาคม – 10 เมษายน 2568 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
