
วันที่ 8 เมษายน 2568 เวลา 11.00 น. ที่ หอประชุมที่ว่าการอำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมกับ บริษัทร่วมเจริญพัฒนาจำกัด (มหาชน) ห้างแว่นท็อปเจริญ จัดกิจกรรมภายใต้โครงการ “แว่นตาเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้” ปีที่ 3 โดยมี พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีเปิด ดยมี คุณ กรีชา เกิดศรีพันธุ์ กรรมการบริษัทร่วมเจริญพัฒนาจำกัด(มหาชน),คุณกาญจนา เกิดศรีพันธุ์ ที่ปรึกษากรรมการบริษัทร่วมเจริญพัฒนาจำกัด(มหาชน) พร้อมคณะผู้บริหารห้างแว่นท็อปเจริญ บริษัทร่วมเจริญพัฒนาจำกัด(มหาชน) และ นายสนั่น สนธิเมือง รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี, พลตรี ณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ , นายไพโรจน์ เกิดแสงสุริยงค์ ปลัดอาวุโสอำเภอปะนาเระ พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรม

โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดยะลา ปัตตานี และนราธิวาส รวมถึง 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เด็กนักเรียน และผู้สูงอายุที่มีปัญหาด้านสายตาได้รับโอกาสเข้าถึงบริการตรวจวัดสายตาอย่างถูกต้อง พร้อมทั้งรับแว่นสายตาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตและลดข้อจำกัดในการเรียนและการทำงาน
โดยภายในกิจกรรม พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ลงพื้นที่พบปะกับพี่น้องประชาชนและผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ขอความร่วมมือจากประชาชนให้ร่วมเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญในการขับเคลื่อนพื้นที่สู่ความสงบสุขอย่างยั่งยืน

สำหรับกิจกรรมดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวในพิธีเปิดว่า “โครงการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องของสายตา แต่ยังเป็นโอกาสสำคัญในการพบปะกับพี่น้องประชาชน เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับบริบทของพื้นที่ และสร้างความร่วมมือกันในทุกภาคส่วน เพื่อให้พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของเราก้าวสู่ความสงบสุขอย่างแท้จริง โดยโครงการ แว่นตาเพื่อพี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนใต้ นั้น ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ที่มุ่งมั่นในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ควบคู่ไปกับการส่งเสริมความเข้าใจและสันติสุขในพื้นที่อีกด้วย”
