วันจันทร์, 25 พฤศจิกายน 2567

กอ.รมน.ภาค 4 สน. รายงานความคืบหน้าเจ้าหน้าที่เข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

 จากกรณีเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมประจำจังหวัดปัตตานี สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมาย เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2567 เวลา 16.00 น.ที่ผ่านมา เพื่อตรวจสอบบุคคลตามหมายจับ ในพื้นที่ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี

โดยได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวภาคประชาชนว่ามีบุคคลต้องสงสัยเข้ามาพักหลบซ่อนในพื้นที่ ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี ซึ่งมีลักษณะเป็นบ้านเช่า จึงได้จัดกำลังร่วม 3 ฝ่ายเข้าทำการตรวจสอบ และนำมาซึ่งการเข้าบังคับใช้กฎหมายในวันนี้

โดยก่อนเข้าบังคับใช้กฎหมายได้มีการอพยพผู้คนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่ มีการเจรจาโดยเชิญผู้นำชุมชน ผู้นำท้องที่ และผู้นำศาสนา มาพูดคุยเพื่อให้ผู้ต้องสงสัย ออกมามอบตัว แต่ไม่เป็นผล จนกระทั่งเวลา 18.00 น.คนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการยิงตอบโต้ เพื่อเป็นการป้องกันตัว
เมื่อสถานการณ์คลี่คลาย เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบภายในบ้านเช่าดังกล่าว พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ทราบชื่อคือ

1.นายมะซอบรี บาเหะ อยู่บ้านเลขที่ 50/3 หมู่ที่ 3 ตำบลธารโต อำเภอธารโต จังหวัดยะลา เป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 3 หมาย ประกอบด้วย
1.1 หมายจับ ฉฉ. 3/66 ลงวันที่ 4 มกราคม 2566 เหตุคนร้ายลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อบิ๊กซี ในพื้นที่ ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี (เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565)
1.2 หมาย จ.194/66 ลงวันที่ 21 มีนาคม 2566 เหตุวางเพลิงมินิบิ๊กซี ในพิ้นที่ ตำบลน้ำดำ อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี (เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565)
1.3 หมายจับ ที่ จ.685/2566 ลงวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 กรณีเหตุยิงเจ้าหน้าที่ สถานีตำรวจภูธรยะรัง และ อาสาสมัคร อำเภอยะรัง ว.19 ยะรัง จังหวัดปัตตานี (เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566)
และยังปรากฎพบความเชื่อมโยงกับเหตุซุ่มยิง และขว้างไปป์บอมบ์โจมตีชุดสายตรวจ สถานีตำรวจภูธรยะรัง พื้นที่ หมู่ 3 ตำบลยะรัง อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี (เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2566)

2.นายอัสฮาร์ เจะเลาะ อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ 5 บ้านปากู ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เป็นบุคคลตามหมายจับ จำนวน 1 หมาย คือ หมายจ.199/66 เหตุคนร้ายลอบวางเพลิงร้านสะดวกซื้อบิ๊กซี อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2565
3. จากการเข้าตรวจสอบของเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน วิทยาศาสตร์ วัตถุพยานที่ตรวจพบ มีดังนี้
3.1 ปืนเล็กยาว เอ็ม 16 จำนวน 2 กระบอก
3.2 ปืนเล็กยาว เอเค 47 จำนวน 1 กระบอก
3.3 ปืนพกสั้น ขนาด .357 ยี่ห้อ สมิท แอนด์ เวสสัน จำนวน 1 กระบอก
3.4 ปืนพกสั้นกึ่งออโตเมติก ขนาด 9 มิลลิเมตร ยี่ห้อ ซีแซด จำนวน 1 กระบอก
3.5 ถุงเก็บปลอกกระสุน จำนวน 1 ถุง
3.6 ท่อลดเสียง จำนวน 2 อัน
3.7 กล้องวัดระยะ จำนวน 1 อัน
3.8 บุหรี่หนีภาษี จำนวนหลายลัง (อยู่ในระหว่างการตรวจนับ)

จาก วัตถุพยานที่ยึดได้ในที่เกิดเหตุ แสดงให้เห็นว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง มีการสั่งสม อาวุธยุทโธปกรณ์ ที่มีขีดความสามารถสูง โดยมุ่งหวัง จะเอาชีวิต เจ้าหน้าที่รัฐ และพี่น้องประชาชน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐ และเพื่อ สร้างสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยต่อเนื่อง ตลอดจน กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงมีความเกี่ยวข้องกับขบวนการลักลอบขนสินค้าหนีภาษี ซึ่งเป็นการทำลายระบบเศรษฐกิจภายในประเทศและยังเป็นท่อน้ำเลี้ยงสนับสนุนการก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อีกด้วย

ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอเรียนให้ทราบว่าผู้ให้การสนับสนุนผู้กระทำผิดด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การนำพาซ่อนเร้น การให้การสนับสนุนที่พักพิง หรือการสนับสนุนเสบียงอาหาร เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ